![บอร์ด สปสช. ลงพื้นที่ดูความพร้อมการเข้าร่วมโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่ บัตรประชาชนใบเดียว” เฟส2 และเยี่ยมชมติดตามนโยบายยกระดับบัตร 30 บาทฯ ก่อนคิกออฟ มี.ค.67 ด้านนพ.สสจ.เพชรบูรณ์แจงที่จ.เพชรบูรณ์ พร้อมแล้ว80%](https://www.newsalive.net/wp-content/uploads/2024/02/IMG_7173-850x560.jpeg)
บอร์ด สปสช. ลงพื้นที่ดูความพร้อมการเข้าร่วมโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่ บัตรประชาชนใบเดียว” เฟส2 และเยี่ยมชมติดตามนโยบายยกระดับบัตร 30 บาทฯ ก่อนคิกออฟ มี.ค.67 ด้านนพ.สสจ.เพชรบูรณ์แจงที่จ.เพชรบูรณ์ พร้อมแล้ว80%
นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ บอร์ด สปสช. พร้อม ทพ.สันติ ศิริวัฒนไพศาล ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 2 พิษณุโลก ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานเพื่อยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค ภายใต้โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่ บัตรประชาชนใบเดียว” เฟส2 ในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ พร้อมติดตามความพร้อมของร้านยาที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ “ร้านยาเรือนเภสัช” และลงเยี่ยมชม “คลินิกทันตกรรมดาวเด็นทัลคลับ (DDC dental clinic) “ที่มีความพร้อมก่อนร่วมโครงการเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมฯ
เภสัชกรหญิงพจนาลัย อนุสรณ์พาณิชกุล ร้านเรือนเภสัชกร กล่าวว่า ตนขอเป็นตัวแทนเภสัชกรชุมชนในร้านยาและขอขอบคุณ สปสช. แทนประชาชนทุกคน ที่มีโครงการดีๆ เหล่านี้ เพราะจากการทำงานเป็นเภสัชกรชุมชนในร้านยามานาน รู้ปัญหาของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สะดวกไปรับบริการที่โรงพยาบาล เช่น กลุ่มผู้ใช้แรงงาน รายได้น้อย หากหยุดงาน 1 วัน เพื่อไปโรงพยาบาลจะต้องสูญเสียรายได้สำหรับการดูแลคนทั้งครอบครัว อีกทั้งคนพลัดถิ่น คนไร้บ้านที่ไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัยแน่นอน เมื่อมีโครงการนี้เกิดขึ้น คนกลุ่มนี้จะได้มีโอกาสเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น ได้ใช้ยาที่เหมาะสมและปลอดภัย ที่ผ่านมาการจัดบริการของร้านเรือนเภสัชกรกับ สปสช. ไม่ว่าจะเป็นโครงการร้านยาลดความแออัด ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ และให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ แม้จะเป็นร้านยาเดี่ยว ไม่มีผู้ช่วยใดๆ เภสัชกรทำทุกอย่างเองทุกขั้นตอน ไม่ได้คิดว่าจะเป็นภาระ คิดเพียงว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากกับประชาชน
ด้านนพ.วิชาญ คิดเห็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวภายหลังเปิดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชน และอำนวยความสะดวกการสมัครเข้าร่วมจัดบริการว่า ได้เร่งทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายถึงหลักการของนโยบายนี้ โดย จ.เพชรบูรณ์มีพร้อมเข้าร่วมโครงการเฟส2 แล้ว80% ทั้งเรื่องการเชื่อมต่อฐานข้อมูล และเชิญชวนให้ประชาชนมายืนยันตัวตน เพื่อนำข้อมูลเวชระเบียนขึ้นสู่ระบบคลาวด์ โดยตอนนี้มีผู้มาลงทะเบียนในระบบดิจิทัลไอดีแล้วเกือบ40% จากเมื่อ2เดือนก่อน มีแค่2% เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งถ้าทำสำเร็จ จะช่วยยกระดับสาธารณสุขไทยให้เป็นดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างแท้จริง เป็นหลักประกันสร้างความมั่นใจได้ ไม่ว่าประชาชนจะเจ็บป่วยอยู่ที่ไหน ก็มีฐานข้อมูล มียาให้ รักษาได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย
คณะ ฯ ยังลงพื้นที่ เยี่ยมชม “คลินิกทันตกรรมดาวเด็นทัลคลับ (DDC dental clinic) “ เพื่อพูดคุยชี้แจงแนวทางตามนโยบายฯ และเชิญชวนเข้าร่วมจัดบริการ พร้อมกับเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกโดยมีทพญ.ประกายดาว ศรีเงิน ต้อนรับ และกล่าวว่า ที่คลินิคฯ ดำเนินงานตั้งแต่ปี 2557 ให้บริการทันตกรรมทั่วไป จัดฟัน และเฉพาะทาง โดยมีบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รวม 15 คน ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับการนัดหมายออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการวิถีใหม่ทุกช่วงวัยทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ .
ด้าน ผศ.ทพ.สุชิต พูลทอง นายกทันตแพทยสภา ซึ่งลงพื้นที่มาดูความพร้อมของคลินิกทันตกรรมที่จะเข้าร่วมโครงการด้วย บอกว่า ทันตแพทยสภา ได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่เฟส1แล้ว จัดอบรมด้านต่างๆและมีใบรับรอง certificatedให้ ส่วนในเฟส2 ก็ยิ่งมีความพร้อมและทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น เพราะมีประสบการณ์จากเฟส1 รู้ว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขตรงไหน ทั้งนี้มองว่าคลินิกส่วนใหญ่ยังกังวลเรื่องการเบิกจ่ายค่ารักษา และบางส่วนก็มีลูกค้าอยู่แล้ว จึงยังมาสมัครเข้าร่วมโครงการกันน้อยอยู่ แต่ถ้าผ่านเฟส1เฟส2ไปแล้วฟีดแบคดี เชื่อว่าจะแย่งกันเข้าร่วมอีกเยอะ เพราะเขาก็อยากได้ลูกค้าใหม่ สำหรับในพื้นที่4จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการเฟสแรก มีคลินิกทันตกรรมเข้าร่วมแล้วเกือบ 40% ส่วนใหญ่อาจยังมีความขลุกขลักเรื่องการใช้ซอฟแวร์ คาดถ้าเลย1เดือนไปแล้วจะเริ่มลื่นไหลขึ้น ซึ่งทาง สปสช. และทันตแพทยสภา จะเข้ามาช่วยดำเนินการให้กระบวนการเดินไปอย่างสมูทที่สุด
ทั้งนี้ สปสช. ร่วมกับสสจ.เพชรบูรณ์ และ7 สภาวิชาชีพ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชน และอำนวยความสะดวกการสมัครเข้าร่วมจัดบริการ มี นพ.วิชาญ คิดเห็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้การต้อนรับและเปิดการประชุม ทั้งนี้ มีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ประกอบการร้านยา, คลินิกพยาบาลและผดุงครรภ์, คลินิกเทคนิคการแพทย์, คลินิกกายภาพบำบัด, คลินิกเวชกรรม, คลินิกทันตกรรม, คลินิกแพทย์แผนไทย ร่วมประชุมภายในงานและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมกว่า 300 คน.