ทพ.อรรถพร รองฯสปสช.ลงเยี่ยมหน่วยนวัตกรรม จ. สิงห์บุรีติดตามนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ บัตรประชาชนใบเดียว” เฟส2 หลังพบมีผู้มีสิทธิบัตรทองใช้บริการจำนวนมาก
วันที่ 9 เมษายน 2567 ที่จังหวัดสิงห์บุรี ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 4 สระบุรี ทพญ.วังจันทร์ กิตติภาดากุล ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านทันตสาธารณสุข) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมคณะลงพื้นที่เยี่ยมและติดตามนวัตกรรมบริการใหม่นโยบายยกระดับ “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”
ตามนโยบายเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนรูปแบบใหม่ในการให้บริการของหน่วยบริการและเครือข่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ : บริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ลดความแออัดในโรงพยาบาลใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่สถานพยาบาลเอกชน”
โดยลงพื้นที่เยี่ยมหน่วยบริการนวัตกรรม 2 แห่งในอำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้แก่ คลินิกทันตกรรมโปรัตน์ และ นภาพรคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่เข้าร่วมตามโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เฟส 2 ที่ให้บริการมาแล้วตั้งแต่ 1 มีนาคม2567 ที่ผ่านมา
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. ร่วมกับ 7 สภาวิชาชีพ และหน่วยบริการ ขับเคลื่อนการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ตามนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” โดยเร่งรัดการจัดให้มีหน่วยบริการนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้โดยง่ายและสะดวก ซึ่งการดำเนินงานนำร่องในระยะแรก 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส มีสถานพยาบาลเอกชนแต่ละวิชาชีพ (คลินิกเทคนิคการแพทย์ (แล็ป) คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลิติกกายภาพบำบัด คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกเภสัชกรรม (ร้านยา) และคลินิกพยาบาลและผดุงครรภ์ ) เพิ่มมากขึ้น (ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีสถานพยาบาลทั้งหมด 1,474 แห่ง เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการ จำนวน 469 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 31.82
“ในระยะที่ 2 หรือเฟส 2 เพิ่มขึ้นอีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา หลังคิกออฟ(เริ่ม 1 มีนาคมที่ผ่านมา) พบว่า มีคลินิกทันตกรรมสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก เรามีคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 519 แห่ง ใน 12 จังหวัด ซึ่งเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 172 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 33 และมีการขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ส่วนงบประมาณที่ใช้ไป สปสช. จ่ายชดเชยให้คลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯไปแล้วกว่า 6,463,800 บาท จากจำนวนการให้บริการ 6,239 คน ให้บริการ 9,234 ครั้ง” รองเลขาธิการสปสช.กล่าว
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า หลังจากเยี่ยมชมคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ที่ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถใช้บริการได้ครอบคลุมบริการทันตกรรม ได้แก่ อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ให้บริการ คนละไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี ครอบคลุมรายการบริการ 6 รายการ ดังนี้ 1. การตรวจสุขภาพช่องปากและวางแผนการรักษา โดยมีการประเมินความเสี่ยงฟันผุ และอาจถ่ายภาพรังสี เพื่อตรวจหาฟันผุซอกฟันผุและวินิจฉัยโรค 2. การใช้ฟลูออไรด์เพื่อป้องกันและหยุดยั้งฟันผุ ได้แก่ การทาฟลูออไรด์วานิช การเคลือบฟลูออไรด์เจล และการทา Silver diamine Fluoride 3.การเคลือบพลาสติกปิดหลุมร่องฟันกรามแท้ที่ 6 และ 7 ในผู้ป่วยอายุไม่เกิน 15 ปี 4. การขูดหินน้ำลาย ขัดฟัน และสอนแปรงฟัน 5. การอุดฟัน 6. การถอนฟันและจ่ายยา ในกรณีที่ประชาชนที่ได้รับการรักษาที่คลินิกทันตกรรม ครบ 3 ครั้งแล้ว แต่พบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพฟันที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ก็สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำของตนเองได้ต่อ
ทั้งนี้รายการทันตกรรมเป็นรายการที่ประชาชนเข้าถึงยาก เนื่องด้วยบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยบริการประจำที่มีคิวนาน ซี่งโครงการ “30บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ถือเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยจากการลงพื้นที่เยี่ยมและกำกับติดตาม พบว่า ประชาชนตอบรับและชื่นชมในรายการทันตกรรม ซึ่งเป้าหมาย สปสช.ต่อไปคือจะขยายคลินิกทันตกรรมให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ให้ครบทั้ง 100%
ทพ.อรนถพร กล่าวอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้ลงเยี่ยมคลินิกทันตกรรมโปรัตน์ ซึ่งเข้าร่วมโครงการ “คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น” เปิดให้บริการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00–12:00, 16:30–20:00; ผู้มีสิทธิบัตรทองทำฟันไม่เสียค่าใช้จ่าย 3 ครั้ง/ปี เพียงพกบัตรประชาชนใบเดียว สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ โดยผู้มีสิทธิสามารถนัดลวงหน้าได้ที่ไลน์ เฟสบุคคลินิกทันตกรรมโปรัตน์
ทพ.อรรถพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนโครงการ “คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชุมชนอบอุ่น” ให้บริการผู้ป่วยแล้วกว่า 90 ราย ส่วนใหญ่เป็นบริการทำแผลทั่วไปผู้ป่วยเบาหวาน ให้บริการรักษาโรคเบื้องต้น ล้างแผล/ล้างตา/ล้างจมูก วางแผนครอบครัว/ยากิน/ยาคุมฉีด/ถุงยางอนามัย เยี่ยมบ้าน บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคโดยคัดกรองเบาหวาน เจาะเลือด 1ครั้ง/คน/ปี(ฟรีทุกสิทธิ์/ทุกคน) เฉพาะกรณียังไม่ป่วย และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.30-19.30 น. ทุกวัน. ซึ่งพบผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการล้างแผลด้วยโรคหลอดเลือดดำมีความพึ่งพอใจมากเพราะมีความสะดวกไม่ต้องเดินทางไกล
ด้าน นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 4 สระบุรี กล่าวว่า ในส่วนของ จ.สิงห์บุรี มีคลินิทันตกรรม จำนวน 12 แห่ง เข้าร่วม 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 17 โดยมีหน่วยบริการนวัตกรรมเข้าร่วมแล้ว 17 แห่ง ได้แก่ คลินิกด้านเวชกรรม ด้านแพทย์แผนไทย เภสัขกรรม(ร้านขายยา) และด้านการพยาบาลฯ จากข้อมูลการเบิกชดเชยค่าบริการ ในช่วง 3 สัปดาห์พบว่า คลินิกทันตกรรมโปรัตน์ มีการเบิกชดเชยค่าบริการ 22 ราย และ นภาพรคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มีการเบิกชดเชยค่าบริการ 67 ราย
ด้านทพญ.วังจันทร์ กิตติภาดากุล ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านทันตสาธารณสุข) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ให้สัมภาษณ์ว่า จังหวัดสิงห์บุรี เป็น 1 ใน 8 จังหวัด ที่มีการดำเนินการตามนโยบาย “ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ในระยะที่ 2 ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 มีนาคม และจัดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมามีการผลักดันนโยบาย โดยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจกับหน่วยบริการภาคเอกชน รวมทั้งมีการดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยมี สปสช เขต สนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ด้วยดีมาโดยตลอด ทำให้มีหน่วยบริการนวัตกรรมเข้าร่วมแล้ว 17 แห่ง ได้แก่ คลินิกด้านเวชกรรม 1 แห่ง ด้านทันตกรรม 2 แห่ง ด้านแพทย์แผนไทย 1 แห่ง ด้านเภสัขกรรม(ร้านขายยา) 12 แห่งและด้านการพยาบาลฯ 1 แห่ง ในส่วนของคลินิกทันตกรรม จังหวัดสิงห์บุรีมีคลินิกทันตกรรม จำนวน 12 แห่ง เข้าร่วม 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 17 ซึ่งทันตกรรมเป็นบริการที่ประชาชนเข้าถึงยาก เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์มีจำนวนน้อย และหน่วยบริการประจำที่มีคิวนาน ซี่งโครงการ “ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ถือเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนได้เพิ่มมากขึ้น
ทพญ.วังจันทร์ กิตติภาดากุล กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีครั้งนี้ ได้ลงเยี่ยมคลินิกทันตกรรมโปรัตน์ ซึ่งเข้าร่วมโครงการ “คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น” เปิดให้บริการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00–12:00, 16:30–20:00; ผู้มีสิทธิบัตรทองทำฟันไม่เสียค่าใช้จ่าย 3 ครั้ง/ปี เพียงพกบัตรประชาชนใบเดียว สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ โดยผู้มีสิทธิสามารถนัดลวงหน้าได้ทางไลน์ เฟสบุคคลินิกทันตกรรมโปรัตน์ พร้อมนี้ได้ลงเยี่ยม นภาพรคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งเข้าร่วมโครงการ “คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชุมชนอบอุ่น” ส่วนใหญ่เป็นบริการทำแผลทั่วไปผู้ป่วยเบาหวาน ให้บริการรักษาโรคเบื้องต้น ล้างแผล/ล้างตา/ล้างจมูก วางแผนครอบครัว ยากิน/ยาคุมฉีด/ถุงยางอนามัย เยี่ยมบ้าน บริการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคโดยคัดกรองเบาหวาน เจาะเลือด 1 ครั้ง/คน/ปี (ฟรีทุกสิทธิ์/ทุกคน) เฉพาะกรณียังไม่ป่วย และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.30-19.30 น. ซึ่งจากข้อมูลการเบิกชดเชยค่าบริการในช่วง 3 สัปดาห์พบว่า คลินิก ทันตกรรมโปรัตน์ มีการเบิกชดเชยค่าบริการ 22 ราย และนภาพรคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มีการเบิกชดเชยค่าบริการ 67 ราย
ด้านน.ส.สมคิด เคียงข้าง อายุ53 ปี บ้านอยู่ ต.สร้อยทอง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้พาหลานสาวมาทำฟันที่ คลินิกทันตกรรมโปรัตน์ ตามสิทธิ์บัตรทอง กล่าวว่า ปกติตนจะเดินทางขับรถจักรยานยนต์มาทำฟันที่คลินิกนี้บ่อย แต่พอรู้ว่าคลินิกเข้าร่วมโครงการเลยพาหลาน 2 คน มาตรวจและรักษาด้วย อยากบอกว่าเป็นโครงการที่ดีมาก รวดเร็ว สะดวก สบาย