29 C
Thailand
พุธ, กรกฎาคม 2, 2025
spot_img

เบทาโกร (BTG) ปลื้มทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตเป็น “A” แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนความแข็งแกร่งโครงสร้างเงินทุน ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ – 9 มกราคม 2566 บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) โชว์โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานที่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เป็น “A” แนวโน้ม “คงที่ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มและจุดเด่นของแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งของเบทาโกร เมื่อล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating)ได้จัดอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก A- เป็นระดับA ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ คงที่ซึ่งการปรับเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และโอกาสเติบโตของบริษัทฯ จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นมาก หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย ตลอดจนผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

โดยมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าเบทาโกรเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทยมากว่า 55 ปี และมีความสามารถในการรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าวเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งอาหารสัตว์ นื้อสัตว์แปรรูป และผลิตภัณฑ์อาหาร จึงสามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะเดียวกันกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งหลากหลายและเป็นที่รู้จักจากผู้บริโภค ทำให้ช่วยเพิ่มผลกำไรและลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งนี้ คาดว่าเบทาโกรจะรักษาผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ที่อยู่ในระดับสูงจากภาวะการขาดแคลนของอุปทาน และความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก

นอกจากนี้ เบทาโกรมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นมาก หลังสามารถระดมทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านการทำ IPO ด้วยมูลค่าประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะนำเงินประมาณ 50% ของจำนวนดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เดิม และส่วนที่เหลือจะใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการอีกทั้ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่ที่ 2.2 เท่า ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับระดับ 5.6 เท่า ณ สิ้นปี 2564 ดังนั้น เมื่อรวมฐานทุนที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนประมาณ 3 5 พันล้านบาทต่อปี คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA จะอยู่ที่ระดับ 1.5 เท่าในปี 2565 และ 2.5 3.9 เท่าในปี 2566 2567 ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนรวม (Debt to Total Capitalization ratio) ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% ในช่วงปี 2565 2567

การได้รับปรับเพิ่มเครดิตเรทติ้งในครั้งนี้ ช่วยตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืนของเบทาโกร ตลอดจนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ซึ่งอันดับเครดิตที่ A แนวโน้มคงที่นั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Investment Grade ที่ได้รับความน่าเชื่อถือจึงส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท ที่มีโอกาสลดลงในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในอนาคตโดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้นพร้อมทั้งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับผลการดำเนินงานได้ในอนาคตนายวสิษฐ กล่าวปิดท้าย

………………………………………………………….

เกี่ยวกับบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)

เบทาโกร เป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรชั้นนำในประเทศไทย โดยครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ อาหารแปรรูปที่เกี่ยวข้อง และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ฟาร์ม และการดำเนินงานด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ มีรูปแบบการทำธุรกิจแบบครบวงจร (Vertically Integrated Business Model) ที่ครอบคลุมในหลายด้านของห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ (Value Chain) ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเพาะเลี้ยง และจำหน่ายพ่อแม่พันธุ์สัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การชำแหละและการแปรรูปเนื้อสัตว์ ไปจนถึงการขาย โรงงานผลิตและแปรรูปอาหารที่มีมาตรฐานสูงและมีประสิทธิภาพของบริษัทฯ ตลอดจนความสามารถในการวิจัย และระบบควบคุมภายในของบริษัทฯ ซึ่งคอยติดตามและควบคุมทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่าของอาหาร ทำให้บริษัทฯ สามารถควบคุมคุณภาพและบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย โดยมีการใช้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) และการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ตามมาตรฐาน สากลซึ่งเป็นที่ยอมรับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็นบทความ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่
Captcha verification failed!
คะแนนผู้ใช้ captcha ล้มเหลว กรุณาติดต่อเรา!

- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img