
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย สานฝันอีกขั้นสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยรางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการท่าเรือสีเขียวระดับสากล (GPAS)
บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ได้รับรางวัล Green Port Award System (GPAS) ประจำปี พ.ศ. 2565
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย- วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565:บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ได้รับรางวัลGreen Port Award System (GPAS) ประจำปี พ.ศ. 2565จากโครงการที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาท่าเรือสีเขียวในภูมิภาคเอเปค (APEC) นับเป็นการตอกย้ำถึงปณิธานของบริษัทในการเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการท่าเรือสีเขียวและการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในระดับภูมิภาค โดยโครงการนี้ริเริ่มโดยAPEC Port Services Network (APSN) เพื่อประเมินผลงานของท่าเทียบเรือต่าง ๆ ในภูมิภาคเพื่อรับรองแผนงานพัฒนาท่าเรือสีเขียวรวมถึงดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่เป็นการยกระดับศักยภาพสู่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนตลอดทั่วทั้งภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมที่แท้จริง
ทั้งนี้ HPT ได้ผ่านเกณฑ์ตามมาตรวัดในแผนการดำเนินงานสำหรับ GPAS-2020 และเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ในคู่มือประกอบการประเมินผล Guide to GPAS Expert Evaluation โดย HPT ยังนับเป็นหนึ่งในท่าเรือทั้งสิ้น 11 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้ประกอบการท่าเทียบเรือในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลทรงเกียรตินี้อีกด้วย
มร. สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า “การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและสีเขียวเป็นสิ่งที่บริษัทพยายามมาอย่างต่อเนื่อง และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้ที่นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่เป้าหมายทางธุรกิจของเรา รางวัลนี้เป็นเสมือนการรับรองในการปฏิบัติทางด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านนี้ของเราอันสะท้อนให้เห็นได้จากพนักงานและพันธมิตรของเรา และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เราจะทำตามคำมั่นสัญญาในการเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ต่อไปสู่ความยั่งยืน”
ภายใต้แผนกลยุทธ์ “HPT Go Green” HPT ได้ริเริ่มทำโครงการต่าง ๆ ด้วยความต้องการที่จะลดสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงานประจำวันทั้งส่วนปฏิบัติการหน้าท่าและส่วนสำนักงาน ซึ่งประกอบไปด้วยการนำเครื่องจักรประหยัดพลังงาน เช่น การนำรถบรรทุกอัตโนมัติใช้พลังงานไฟฟ้ามาทำงานร่วมกับรถบรรทุกแบบทั่วไป ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (super post panamax ship to shore cranes)และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง (remote-control rubber tyred yard cranes) ที่ควบคุมจากระยะไกลและใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงการค่อย ๆ ปรับลดการใช้เอกสารแบบกระดาษ การแยกประเภทขยะ ลดการใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำ กล่องพลาสติกและกล่องโฟม รวมถึงการปลูกต้นไม้
ความพยายามดังกล่าวข้างต้นได้ส่งผลให้เห็นเป็นรูปธรรมจากผลประเมินการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประจำปี และการลดมลภาวะทางด้านเสียงลงได้จากการใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า
ไม่เพียงเท่านั้น HPT ยังได้แบ่งปันความรู้ทางด้านการพัฒนาท่าเรือเพื่อความยั่งยืนด้วยการส่งต่อสิ่งที่มีค่านี้ไปยังว่าที่พนักงานในอนาคตของบริษัทในความร่วมมือกับคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ด้านการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “อนาคตที่ยั่งยืนของเรา” (Our Sustainable Future) ของ HPT ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนนักศึกษาที่จะกลายเป็นบุคลากรในสายงานด้านการขนส่งทางทะเล ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้พวกเขาเหล่านั้นได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
-จบ-
ข้อมูลเกี่ยวกับฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย
บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ได้รับการออกแบบก่อสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งตู้สินค้าของประเทศไทย บริษัทฯ ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและประตูสำหรับการส่งออก-นำเข้าที่สำคัญของประเทศบนชายฝั่งของจังหวัดชลบุรีที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ลงมาเพียง 130 กิโลเมตร HPT ให้บริการอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ รวมถึง บริการสถานีขนถ่ายสินค้า ระบบรถไฟขนส่งรางคู่และมีเส้นทางเชื่อมต่อที่ดีกว่าสู่ทางหลวงสายหลักเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางในที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยปัจจุบันเปิดให้บริการในท่าเทียบเรือ A2 A3 C1 C2 D1 และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาส่วนที่เหลือของท่าเทียบเรือชุด D
HPT เป็นหนึ่งในเครือสมาชิกของกลุ่มฮัทชิสัน พอร์ท ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งของบริษัท ซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ จำกัด (CK Hutchison Holdings Limited) ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านท่าเทียบเรือและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ฮัทชิสัน พอร์ท เป็นผู้ลงทุน พัฒนาและประกอบการด้านท่าเทียบเรือชั้นนำของโลก มีเครือข่ายท่าเทียบเรือถึง 52 แห่ง กระจายอยู่ใน 26 ประเทศทั่วโลก ทั้งใน เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฮัทชิสัน พอร์ท ได้ขยายกิจการครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ท่าเทียบเรือโดยสาร ศูนย์กระจายสินค้า บริการขนส่งด้วยระบบรางและอู่ซ่อมเรือ