การบินไทย เปิดเวที “THAI Talk” ชวนกูรู–อินฟลูฯ เผยอินไซต์ท่องเที่ยวปี 2568สู่ตลาดในเอเชีย โตเกียว–สิงคโปร์ ครองแชมป์ ส่วน “กวางโจว” เป็นอีกหนึ่งเมืองที่กำลังมาแรง ชี้นักเดินทางไทยหันมาเลือกความสะดวกสบายแบบ “ฟูลเซอร์วิส”ลุยเพิ่มเที่ยวบิน-เสิร์ฟบริการเหนือระดับรับดีมานด์ จัดโปรพิเศษกับ Mastercard ลดทันที 2,000 บาทต่อที่นั่ง จองวันนี้ ถึง 30 ก.ย. เดินทางได้ถึงสิ้นปี
กรุงเทพฯ 3 กันยายน 2568 — บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยสายการพาณิชย์ ร่วมกับ Mastercard จัดเวทีทอล์กครั้งใหญ่ “THAI Talk:Travel Trend and Priceless Experience” เปิดอินไซต์เทรนด์ท่องเที่ยวล่าสุดของคนไทยปี 2568 สู่ตลาดในเอเชีย เจาะลึกสถิติเส้นทางยอดนิยม หมุดหมายใหม่น่าจับตา และพฤติกรรมผู้โดยสารยุคใหม่ มุ่งต่อยอดผลตอบรับที่ดีในหลายเส้นทางด้วยบริการเหนือระดับที่รองรับดีมานด์ได้ตรงจุด พร้อมเผยแคมเปญ“Good Taste for a Good Cause” ภายใต้กลยุทธ์การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้สังคม ทั้งยังผนึก Mastercard กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไตรมาสสุดท้ายกับโปรโมชันสุดพิเศษบินคุ้มทั่วเอเชียกับการบินไทย รับส่วนลดทันที 2,000 บาทต่อที่นั่ง เมื่อจองบัตรโดยสารไป-กลับผ่าน thaiairways.com หรือ
แอปพลิเคชัน Thai Airways และชำระด้วยบัตร Mastercard พร้อมใส่โค้ด “MCTHASIA” โดยจองตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ก.ย. เดินทางได้ถึงสิ้นปี 2568
งานทอล์กครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับแนวหน้า อาทิ Mastercard, YouTrip, ดอยตุง และกานเวลา ช็อกโกแลต รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวชื่อดัง ได้แก่ เพจ “ไปไงมาไง” และช่อง “Loi Story” ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเดินทางทั่วเอเชีย พร้อมปักหมุดหมายใหม่ที่น่าสนใจ และเผยเคล็ดลับการเตรียมความพร้อมก่อนเที่ยวที่จะทำให้คนไทยท่องเที่ยวได้อย่างสนุกและอุ่นใจยิ่งขึ้น
โตเกียว–สิงคโปร์–เซี่ยงไฮ้ ขึ้นแท่นเมืองยอดฮิตปี 2568
นายกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “จากสถิติผู้โดยสารคนไทยของการบินไทยช่วงมกราคมถึงกรกฎาคม 2567 เส้นทางยอดนิยม 5 อันดับแรกจากกรุงเทพฯ สู่เอเชีย ได้แก่ โตเกียว (นาริตะ), ฮ่องกง, โอซาก้า, สิงคโปร์ และเกาหลี (โซล) แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2568 โตเกียวยังคงครองแชมป์ ส่วนสิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้ขยับขึ้นมาเป็นที่ 2 และ 3 แทนที่ฮ่องกงและโอซาก้า ส่วนโซล เกาหลีใต้ ยังติดท็อป 10”
“ส่วนเส้นทางที่มีอัตราการเติบโตน่าสนใจคือ เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกาที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเพิ่มขึ้นกว่า 100% ด้านเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนก็มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า 80% เช่นกัน โดยในปี 2568 การบินไทยเพิ่มเที่ยวบินในหลายเส้นทางเพื่อรอบรับความต้องการใหม่ ๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ โคลัมโบ และเดนปาซาร์ (บาหลี) เป็นต้น”
“กวางโจว” เป็นอีกหนึ่งเมืองที่กำลังมาแรง ปี 2568
นายกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ เผยต่อว่า “ที่น่าจับตาคือกวางโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน คนไทยไม่เพียงแต่ไปชอปปิ้ง แต่ยังสนใจพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ชมเมือง และชิมสตรีตฟูดที่มีให้เลือกหลากหลาย ความนิยมนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นภายหลังมาตรการฟรีวีซ่าของประเทศจีน ที่ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น”
ประเทศจีนถือเป็น Hidden Gem ของนักเดินทางไทย ที่ครบเครื่องทั้งค่าใช้จ่ายที่จับต้องได้และแหล่งท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ตั้งแต่ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ไปจนถึงสวนสนุกชื่อดังอย่าง Disneyland ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่แตกต่างจากญี่ปุ่นหรือเกาหลี อีกทั้ง การบินไทยยังให้บริการครอบคลุมเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีน เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดแก่ผู้โดยสาร
นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่ หันมาเลือก “ฟูลเซอร์วิส” แบบจ่ายครั้งเดียวเพื่อความสบาย
“นักเดินทางไทยปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากขึ้น นิยมบินฟูลเซอร์วิสที่จ่ายครั้งเดียวแล้วครบทุกความต้องการ การบินไทยตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารเพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้วยเครื่องบินลำใหญ่ ห้องโดยสารกว้าง มาพร้อมกับระบบIn-flight Entertainment ที่ทันสมัย และอาหารระดับพรีเมียมที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกชั้นโดยสาร
สำหรับเครื่องบิน Airbus A320 ได้อัปเกรดที่นั่งทุกลำให้มีชั้น Royal Silk หรือชั้นธุรกิจที่สามารถปรับเอนนอนได้สบายยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มพรีเมียมที่ใส่ใจเรื่องความสบายระหว่างเดินทางแม้ในเส้นทางระยะสั้น การบินไทย มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น คุ้มค่า และใส่ใจทุกรายละเอียด นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และออกแบบตารางบินให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์นักเดินทางมากที่สุด เช่น เลือกออกเดินทางกลางคืนถึงเช้าเพื่อเที่ยวต่อได้แบบเต็มวัน หรือบินเช้าถึงบ่ายสำหรับคนที่อยากเช็กอินเข้าโรงแรมได้พอดี เหมาะทั้งกลุ่มคนทำงานที่อยากประหยัดวันลาและครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกสบาย ตอกย้ำว่า การบินไทยคำนึงถึงความราบรื่นและคุ้มค่าในทุกมิติของการเดินทางเสมอ” นายกิตติพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
YouTrip เผยเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2568 นักเดินทางยุคใหม่ เน้น “หั่นเที่ยว ไม่หั่นทริป”
นางสาวจุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTripประเทศไทย เผยว่า “ในครึ่งปีแรกของปี 2568 คนไทยเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนว่าการเที่ยวต่างประเทศกลายเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์สำคัญ แต่จะเน้นการเที่ยวอย่างชาญฉลาดมากขึ้นตามแนวคิด ‘หั่นเที่ยว ไม่หั่นทริป’ คือเปลี่ยนจุดหมายให้อยู่ในเอเชียแปซิฟิก แต่ยังคุ้มค่าคุ้มประสบการณ์ นอกจากนี้ อีกเทรนด์ที่เห็นได้ชัดคือการเติบโตของ ‘นักเดินทางยุคดิจิทัล’ ที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการวางแผนทริป และใช้ดิจิทัลวอลเล็ตที่รองรับเงินหลายสกุล (Multi-Currency Wallet) อย่าง YouTrip เพื่อการจ่ายเงินที่คล่องตัวและคุ้มค่าที่สุด ที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวไทยเริ่มเชี่ยวชาญเรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนและวางแผนการใช้จ่ายก่อนเดินทางมากขึ้น โดย YouTrip พบว่าการแลกเปลี่ยนเงินล่วงหน้ามีอัตราเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ยังพบว่าคนยุคนี้ใช้สมาร์ตโฟนช่วยจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับทริป รวมถึงการใช้จ่ายและต้องการประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและการควบคุมที่ง่ายดาย ฟีเจอร์อย่างการแจ้งเตือนการใช้จ่ายทันที และการล็อก/ปลดล็อกบัตรผ่านแอปจึงไม่ใช่เพียงฟังก์ชันเสริม แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ทุกการเดินทางมั่นใจและสะดวกขึ้น เรียกได้ว่า
สมาร์ตโฟนได้กลายเป็น ‘พาสปอร์ตใบใหม่’ ของนักเดินทางยุคดิจิทัล”
ส่องแคมเปญ Good Taste for a Good Cause กับการพาสินค้าไทยสู่น่านฟ้าทั่วโลก
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานทอล์กคือการเปิดวิสัยทัศน์เบื้องหลังแคมเปญสำคัญอย่าง “Good Taste for a Good Cause” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของการบินไทย โดย นายวิชญ์ กิจจาทร ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริการอาหารบนเครื่องบินการบินไทย นอกจากจะสร้างความประทับใจให้นักเดินทางทั่วโลกด้วยรสชาติที่อร่อยและมีคุณภาพแล้ว เรายังสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากท้องถิ่น เพื่อส่งต่อทั้งรสชาติที่ดีและคืนคุณค่าสู่สังคม พร้อมสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่เราภูมิใจนำเสนอ โดยการบินไทยได้ร่วมมือกับแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพและจุดยืนที่ชัดเจนในการยกระดับวัตถุดิบไทยสู่มาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น กาแฟไทยจากดอยตุง ช็อกโกแลตพรีเมียมจากกานเวลา ช็อกโกแลต นอกจากนี้ เรายังมีข้าวแต๋น (Rice Cracker) ของการบินไทยเอง จากโจทย์ที่ว่า Snack บนเครื่องต้องเป็นของดีจากเมืองไทยภายใต้ธีม “ข้าวไทย หัวใจอินเตอร์” เราจึงใช้ข้าวไทยถึง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดบุรีรัมย์ ข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 จากจังหวัดเชียงราย และข้าวขาวจากจังหวัดปทุมธานี โดยนำเสนอรสชาติที่ถูกปากผู้โดยสารทั่วโลก ปัจจุบันเราสนับสนุนเกษตรกรโดยสั่งข้าวมากถึง 100 ตันต่อเดือน และสร้างความตื่นเต้นด้วยรสชาติใหม่ ๆ อยู่เสมอ”
การบินไทย ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อยกระดับวัตถุดิบจากเมืองไทยสู่น่านฟ้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคราฟต์ช็อกโกแลตที่ปลูกในประเทศไทยจาก“กานเวลา ช็อกโกแลต” กับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่มักผสานเสน่ห์ของขนมไทยและผลไม้ท้องถิ่นเข้ากับช็อกโกแลตพรีเมียม อาทิ ช็อกโกแลตรสถั่วแปบ ที่ให้บริการในชั้น Royal First โดดเด่นด้วยความหอมของถั่วเหลือง มะพร้าว และงาคั่ว ที่เข้ากันอย่างลงตัว ด้าน “ดอยตุง” ก็ได้รังสรรค์กาแฟดริปพรีเมียม Black Silk Blend ที่ผสานกลิ่นดาร์กช็อกโกแลตและคาราเมล ให้รสกลมกล่อม นุ่มนวล สำหรับเสิร์ฟในชั้นRoyal First และ Royal Silk นอกจากนี้ ยังมีกาแฟสูตรใหม่อย่าง Royal Highland Single Originสำหรับให้บริการบนทุกชั้นโดยสารและทุกเที่ยวบินอีกด้วย
บินคุ้มทั่วเอเชียกับ Mastercard
นอกจากบริการเหนือระดับและการเดินทางที่สะดวกสบาย การบินไทยยังได้ร่วมผนึกกำลังกับMastercardมอบโปรโมชันสุดคุ้ม ส่วนลด 2,000 บาท/ที่นั่ง เมื่อจองบัตรโดยสารไป-กลับจากประเทศไทยสู่ทุกเส้นทางในเอเชีย ผ่าน www.thaiairways.comหรือแอปพลิเคชัน Thai Airways และชำระด้วยบัตร Mastercard พร้อมใส่โค้ด “MCTHASIA”
การบินไทย ชวนคนไทยมาเที่ยวให้สุด ปักหมุดทุกเทรนด์ บินคุ้มแบบจ่ายทีเดียวครบกับฟูลเซอร์วิส คุ้มค่า และสบายต่างกัน พร้อมส่งต่อความยั่งยืนสู่สังคมไทย