
“คณะทำงานฯกำหนดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค” เริ่มดำเนินงานตามนโยบายAviation Hub จับมือทุกภาคส่วนการบิน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
“คณะทำงานบูรณาการการกำหนดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค” เริ่มดำเนินงานตามนโยบาย Aviation Hub จับมือทุกภาคส่วนการบิน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยาน MRO หนุน Air Cargo สัญชาติไทย
วันนี้ (6 พฤษภาคม 2568) พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ในฐานะประธานคณะทำงานบูรณาการการกำหนดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) ที่ได้รับแต่งตั้งจากประธานกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุม Kick Off นโยบาย Aviation Hub ที่จัดขึ้นตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับฯ โดยเป็นการประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบิน ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน และผู้ประกอบการสายการบิน ว่า จากการที่ประเทศไทยสามารถปรับระดับมาตรฐานการบินของไทย จาก Category 2 (CAT2) ยกระดับกลับไปสู่ Category 1 (CAT1) เป็นกลุ่มประเทศที่มีมาตรฐานการบินอยู่ในระดับมาตรฐานสากลนั้น ทำให้ CAAT และภาคส่วนการบินมั่นใจที่จะขับเคลื่อนนโยบายศูนย์กลางการบินของภูมิภาคของประเทศไทย โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน MRO และศูนย์ฝึกอบรมด้านการบินครบวงจร (Training Center) พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Cargo) สัญชาติไทย และส่งเสริมกิจกรรมการทำการบินทั่วไป (General Aviation)
ด้านการส่งเสริมและจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) คณะทำงานฯ Aviation Hub เตรียมจัดทำ Master Plan เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีเอกภาพ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยคณะทำงานฯ Aviation Hub จะส่งเสริมให้ศูนย์ซ่อมอากาศยาน MRO ของไทยเป็น
หมุดหมายหลักของสายการบินทั่วโลกที่มาแวะพักและซ่อมบำรุง โครงสร้างการให้บริการของศูนย์ MRO
ที่จะเกิดขึ้นนั้น จะมีบริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลกมาเปิดบริการ ตั้งแต่งานซ่อมบำรุงอากาศยาน งานซ่อมบำรุงส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน และงานซ่อมบำรุงรักษาบริภัณฑ์และชิ้นส่วนของอากาศยาน
“สายการบินที่ต้องการนำเครื่องบินมาซ่อมบำรุงที่ประเทศไทย จะมีทางเลือกมากขึ้น โดยจะเลือกซ่อมบำรุงกับบริษัทที่ตัวเองต้องการ หรือซ่อมกับบริษัทอื่น ๆ ก็ได้ เช่น ถ้าเป็นเครื่องบินของโบอิ้งก็อาจจะอยากซ่อมกับบริษัทที่มาจากสหรัฐฯ ถ้าเป็นเครื่องบินแอร์บัสก็อาจจะซ่อมกับบริษัทที่มาจากยุโรป ถ้าเรามีทางเลือกเราก็จะได้ลูกค้ามากขึ้น ก็จะกลายเป็น Aviation Hub จริง ๆ” พลอากาศเอกมนัทฯ กล่าว
ด้านการส่งเสริมธุรกิจ Air Cargo สัญชาติไทย คณะทำงานฯ Aviation Hub จะเร่งส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการไทยมากขึ้น โดยลดอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ (Barrier to Entry) เช่น การเสนอการปรับปรุงกฎระเบียบในเรื่องของสัดส่วนผู้ถือหุ้นชาวไทยของผู้ประกอบการสายการบินที่ให้บริการการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Cargo) เพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสในการรวบรวมทุนค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนเงินทุนและเติบโตเป็นสายการบินขนส่งสินค้าสัญชาติไทยอย่างสมบูรณ์ และเตรียมประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าในเขตปลอดอากร (Free Zone)
ด้านการสนับสนุนให้มี Aviation Training Centre คณะทำงานฯ Aviation Hub เตรียมจัดทำแผนการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านการบินครบวงจร ณ ท่าอากาศยานที่มีศักยภาพ เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นต้น โดยมีการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากด้านการบินพลเรือนด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาตรฐานระดับโลกมาใช้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเติบโต
ด้านอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย องค์ประกอบของศูนย์ฝึกอบรมฯ เช่น ศูนย์ปฏิบัติการฝึกบินจำลองสำหรับวิศวกรรมการบิน ศูนย์ฝึกช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์ฝึกปฏิบัติการควบคุมการจราจรทางการอากาศจำลองแบบ 360 องศา ศูนย์ฝึกนายช่างภาคพื้นดิน เป็นต้น ซึ่ง CAAT ตั้งเป้าหมายให้มีการจัดทำแผนการจัดสร้างศูนย์ฝึกภายในปี 2569 นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแนวทางพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำการบินสำหรับการบินทั่วไป (General Aviation) อีกด้วย
พลอากาศเอก มนัทฯ กล่าวต่อว่า CAAT มีแนวทาง เพื่อสนับสนุนนโยบาย Aviation Hub เช่น การส่งเสริมการทำการบินส่วนบุคคล (Private Jet) โดยเร่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานและอำนวยความสะดวกในการทำการบินประเภทการบินส่วนบุคคล (Private jet) เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีรายจ่ายสูง (Luxury Tourism) ทบทวนหลักเกณฑ์และข้อกำหนดด้านอายุอากาศยานที่ปฏิบัติการบิน การส่งเสริมการใช้อากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการขนส่งในเขตเมือง การพัฒนากฎระเบียบและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Sea plane ในประเทศไทย การนำระบบการดำเนินงาน
แบบเร่งด่วน (Fast track) มาใช้ในการออกใบอนุญาต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ
ประธานกรรมการกำกับฯ และคณะกรรมการกำกับฯ และ CAAT มั่นใจในความพร้อมและศักยภาพของอุตสาหกรรมการบินของไทย พร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบาย Aviation Hub อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอย่างแท้จริง โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน บูรณาการทุกกลไก และลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในทุกด้าน เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการบินไทย