29.1 C
Thailand
พฤหัส, กรกฎาคม 31, 2025
spot_img

สปสช.แจ้งแนวทางดูแลผู้ป่วยฟอกไต-ล้างไตที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ในพื้นที่สปสช.เขต10 อุบลราชธานี

เมื่อวันที่ 30 กค.2568 เภสัชกรคณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ(สปสช.)พร้อมด้วย นางมลุลี แสนใจ ผอ.สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี และและนพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร ผู้ทรงคุณวุฒิ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี ลงพื้นที่ศูนย์พักพิง จ.อุบลราชธานี ลงพื้นที่รับฟังการดูแลผู้ป่วยล้างไต-ฟอกไตที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ของจังหวัดอุบลราชธานี โดย มีพญ.ธิติมา สายสุด ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม และแพทย์อายุรกรรมดูแลโรคไต โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม นางสาวอลิษา สุพรรณ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และนายวุฒินันท์ เทียมสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองเดชอุดม ต้อนรับและสรุปภาพรวมในพื้นที่

เภสัชกรคณิตศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดอุบลราชธานีขณะนี้ หน่วยบริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่หน่วยบริการในพื้นที่อำเภอน้ำยืน อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอนาจะหลวย มีรายงานว่าผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องบำบัดทดแทนไต ที่ได้รับผล กระทบ ได้แจ้งหน่วยบริการถึงแนวทางปฏิบัติสำหรับการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดังนี้
กรณีผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) หากมีการอพยพคนไข้ไปยังจุดใดจุดหนึ่งและต้องการน้ำยาล้างไต ให้ประสาน สปสช. เขต 10 อุบลราชธานี โดยต้องแจ้งชนิดและจำนวนของน้ำยา พร้อมชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ทีมขนส่งของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่นจำกัด จัดส่งได้ถูกต้อง หากมีกรณีน้ำยาล้างไตไม่สามารถส่งถึงบ้านคนไข้ได้

“ศูนย์อพยพให้กับผู้พักพิงผู้ป่วยที่เป็นโรคไต จ.อุบลราชธานี สามารถจัดบริการได้ดีมาก ทางทีมงานเจ้าหน้าที่รพ. ที่ดูแล มีการดูแลอย่างต่อเนื่อง ได้เกือบ 100% ประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเป็นโรคไตจะมีเจ้าหน้าที่ประเมิน การคัดกรองหากพบว่ามีอาการวิกฤติก็จะนำส่งโรงพยาบาลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ในศูนย์พักพิงจะมีอาการคงที่ ขณะเดียวที่ศูนย์นี้มีห้องล้างไตที่ปลอดเชื้อสะอาดปลอดภัย การล้างไตช่องท้องเป็นรอบ โดยวันละ3รอบ ช่วงที่มีสถานการณ์วิกฤตก็จะเพิ่มเป็น4รอบ

ด้านพญ.ธิติมา สายสุด ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ในฐานะแพทย์อายุรกรรมดูแลโรคไต กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคไตที่ศูนย์พักพิงจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับผลกระทบ จากการล้างไตผ่านเส้นเลือดมีจำนวน 255 คน ผู้ป่วยไตที่ล้างด้วยช่องท้องจำนวน 240 -250 คน กลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษส่วนใหญ่จะมีอายุมากมีโรคประจำตัวเยอะมีอาการไม่คงที่ ทางเราจะจัดบริการให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชซึ่งจะมีหน่วยไตเทียมคอยดูแล ส่วนที่ศูนย์อพยพพักพิงเป็นกลุ่มที่มีอาการคงทีซึ่งดูแลอยู่จำนวน 5 คน จะมีเจ้าหน้าที่และแพทย์ที่ดูแลอาการผู้ป่วยและประเมินอาการเบื้องต้น ส่วนอุปกรณ์ ต่างๆเช่น พวกน้ำยาล้างไต สำลี คัตเตอร์บัต อีกทีทั้งศูนย์แห่งนี้ก็จะมีห้องล้างไต ที่ได้มาตรฐานสะอาดและปลอดภัยให้กับผู้ป่วยโรคไตที่ล้างไตด้วยตนเองผ่านช่องท้อง มีจำนวน 2 เตียง ผู้ป่วย ญาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจของดีมาก เพราะที่รพ.ร่วมกับเครือข่ายระดมกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามกลุ่มเป้าหมายในศูนย์พักพิง และกรมการแพทย์ ได้สนับสนุน รถฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Mobile Hemodialysis) มาช่วยดูแลบรรเทาผู้ป่วยที่ศูนย์อพยพ

ด้าน นางมลุลี แสนใจ ผอ.สปสช.เขต10 อุบลราชธานีกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ ในพื้นที่ มีผู้ป่วยฟอกไต-ล้างไตที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน มาอยู่ที่ศูนย์พักพิง จึงต้องมีการจัดทำพื้นที่ให้ผู้ป่วยล้างไตในจุดศูนย์พักพิง สำหรับผู้ป่วยฟอกไต กระทรวงสาธารณสุขได้นำรถฟอกไตเคลื่อนที่มาให้บริการ รองรับผู้ป่วยได้วันละ 2 คน วันละ 2 รอบ นอกจากนั้นยังมีคลินิกฟอกไตเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2 แห่ง ที่รับดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ด้วย

ในส่วนของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องรับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีฟอกเลือด (HD) ในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดศรีสะเกษได้มีการวางแผนการดำเนินงาน โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษและสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ปรับใบอนุญาต ขยายเวลาและรอบ ให้เป็นไปตามสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน ในส่วนของโรงพยาบาลรัฐได้ปรับเวลาขยายการเปิดระบบข้อมูลพื้นฐานหน่วยบริการ (CPP) ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับคลินิกเอกชนได้เพิ่มขยายเวลาแล้วทั้งจังหวัด และได้อนุมัติขยายการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเอกชนเพื่อดูแลผู้ป่วยทั้งจังหวัดด้วย

“ในกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากหน่วยบริการเดิมออกนอกพื้นที่ แต่หน่วยรักษาเดิมยังไม่ได้ทำการส่งตัวเพื่อให้หน่วยบริการปลายทางทำการยืนยันตัวตน (Authen) ปิดสิทธิ และเบิกค่ารักษานั้น สปสช. ได้เปิดระบบให้มีการคีย์เบิกค่ารักษาได้หลังจากที่มีการส่งตัวแล้วภายใน 360 วัน”ผอ.สปสช.เขต10 อุบลราชธานี กล่าว

นอกจากนี้ คณะฯ สปสช. และ สสจ.อุบลราชธานี ยังลงพื้นที่เทศบาลตำบลเมืองเดช รับฟังการสรุปผลการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ภาวะพึ่งพิงในศูนย์พักพิง จังหวัดอุบลราชธานี

โดยนายวุฒินันท์ เทียมสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองเดชอุดม สรุปภาพรวมว่า ขณะนี้ ทางเทศบาลฯได้ใช้งบประมาณจากกองทุนช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบ มาพักที่ศูนย์พักพิง จำนวน 159 ราย รวมถึงญาติผู้ป่วย จำนวน 238 ราย มีผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องใช้เตียงพยาบาล จำนวน 51 เตียง

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในศูนย์พักพิง ได้แก่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รถเข็นนั่ง สายสวนปัสสาวะ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการบริจาค เพียงพอสำหรับผู้ป่วย โดยเทศบาลฯได้จัดเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข รวมทั้ง CG เข้าดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติในศูนย์พักพิงด้วย กรณีที่ผู้ป่วยไม่มีญาติมาด้วย จะมีจิตอาสาเข้ามาดูแล และมีเจ้าหน้าที่ตามหน่วยบริการใกล้เคียงเข้าดูแล ซึ่งปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้วตอนนี้ แต่ละศูนย์พักพิงในเขตถ้าขาดอุปกรณ์ให้ไปติดต่อรับที่อำเภอ กรณีผู้ป่วยและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามศูนย์พึ่งพิงรอบนอก จะให้ใช้งบประมาณของกองทุนLTC ที่รับผิดชอบในการดูแล

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img