25.7 C
Thailand
พุธ, ธันวาคม 24, 2025
spot_img

โรงพยาบาลโพธิ์ทอง รุกหนัก! ยกระดับ “บริการสุขภาพยุคดิจิทัล” ชูโมเดลหาหมอออนไลน์-ส่งยาถึงบ้าน-เจาะเลือดใกล้บ้าน

โรงพยาบาลโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ยกระดับการให้บริการสาธารณสุข เน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ลดความแออัดโรงพยาบาล และเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชนในพื้นที่อ.โพธิ์ทอง

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 นพ.ทวีโชค โรจนอารัมภ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นายแพทย์ มีโชคชัย วิเศษสิทธิโชค  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง นายสิทธิศักดิ์ สาธุเสน สาธารณสุขอำเภอโพธิ์ทอง นพ.สนธยา รองเสียงล้ำ นพ.เวชศาสตร์ครอบครัว นำคณะสปสช.ส่วนกลางและ นางสุวรรณี  ศรีปราชญ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม สปสช.เขต 4 สระบุรี ลงเยี่ยมชมการบริหารจัดการคลินิกหมอครอบครัวและนวัตกรรมการบริการยุคดิจิทัล เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลโพธิ์ทองโดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน-ความดันโลหิตสูง” ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนมีความสุข

นพ.ทวีโชค โรจนอารัมภ์กุล นพ.สสจ.อ่างทอง กล่าวว่า นโยบายลดแออัด ลดการรอคอย ทำให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางมาที่ รพ. สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต)ใกล้บ้าน หรือใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น Telemedicine การสื่อสารทางไกลกับแพทย์ผ่านระบบทางออนไลน์ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ รพ. เองได้ แต่ผู้ป่วยต้องไม่มีอาการรุนแรง ในอนาคตมีแผนขยายการให้บริการในรพ.อื่นทั่ว จ.อ่างทองด้วย

“ระบบดิจิทัลหรือ Telemedicine การสื่อสารทางไกลกับแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ จะช่วยลดช่องว่างคือผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงแพทย์ที่ทำการรักษาซักประวัติก็สามารถวินิจฉัยโรคได้ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมารพ.และ รพ.จะได้รับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องมารพ.จริงๆได้ตรวจร่างกายละเอียดและคุณหมอก็สามารถวินิจฉัยโรคและทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง กลายเป็นมาน้อยดีกว่ามามาก”นพ.สสจ.อ่างทอง กล่าว

ด้านนายแพทย์มีโชคชัย กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรในพื้นที่ที่มีมากกว่า 50,801 คน แบ่งเป็น เพศชาย 24,135 คน เพศหญิง 26,666 คน และมีผู้สูงอายุกว่า ในพื้นที่ 13,185 คน ซึ่งโรงพยาบาลได้ผลักดันระบบ “Digital Health” อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยชู 4 บริการหลัก ตอบโจทย์สุขภาพยุคใหม่ โดย 1.มีระบบนัดหมาย Online: ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ช่วยลดเวลารอคอย โดยเปิดให้บริการในคลินิกแพทย์แผนไทย ทันตกรรม และคลินิกโรคเรื้อรัง ซึ่งมียอดการนัดหมายแล้วกว่า 456 ครั้ง (ตั้งแต่ ม.ค. 2568)

ผอ.รพ.โพธิ์ทอง กล่าวว่าต่อว่า 2.มี Telemedicine (พบแพทย์ออนไลน์): บริการวิดีโอคอลสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้ป่วยติดเตียง ช่วยให้เข้าถึงการรักษาได้จากที่บ้าน โดยมียอดผู้ใช้บริการแล้ว 2,566 ครั้ง ขณะที่ 3.ระบบ Health Rider (หน่วยส่งยาเร็ว): บริการส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงบ้านครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย NCDs และผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งปัจจุบันจัดส่งยาไปแล้วกว่า 5,242 เคส
“โครงการ Health Rider ของสปสช. รพ.โพธิ์ทองนำมาใช้ คนไข้พบแพทย์เสร็จ เช่นเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ถ้าประสงค์ไม่อยากรอยาที่รพ.อยากกลับบ้านไปก่อนและรอยาที่บ้านก็ได้ ถ้าเป็นสิทธิบัตรทองไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งหมดนี้เป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและสปสช. ร่วมมือกัน ผมเพียงนำนโยบายนี้ไปลงมือปฏิบัติที่จะช่วยดูแลประชาชนได้รับบริการที่ดีขึ้น ผลตอบรับประชาชนชอบมาก เพราะเขาไม่ต้องเสียเวลาทำมาหากิน บางที่เรามองว่าการที่คนไข้มารพ.และรอ 1 วันจะเสียเวลา ขาดรายได้ พอมีตรงนี้ คนไข้ไม่ป่วยหนักมากเขาจะประหยัดเวลานี้ทำงานบ้านได้ ดูแลคนที่บ้านได้ มีความสะดวกเข้าถึงแพทย์มากขึ้น”

นายแพทย์มีโชคชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบริการที่ 4.Home Ward: ระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยที่บ้านด้วยมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล โดยมีทีมแพทย์พยาบาลติดตามอาการผ่านระบบดิจิทัล เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และแผลกดทับ เชื่อมโยงการทำงานผ่าน “คลินิกหมอครอบครัว” ปัจจุบันโรงพยาบาลโพธิ์ทองได้ประสานความร่วมมือกับคลินิกหมอครอบครัว 4 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.บ้านโพธิ์เอน, รพ.สต.ทางพระ, รพ.สต.เฉลิมพระเกียรติ และ รพ.สต.องครักษ์ เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (NCDs) กว่า 11,213 ราย อย่างใกล้ชิด

“แนวทางการพัฒนาระบบบริการเพื่อลดความแออัด โดยเพิ่มการเข้าถึงการเจาะเลือดใกล้บ้าน ถึง 17 แห่งเพื่อแก้ข้อจำกัดของผู้ป่วยที่ใช้บริการ Telemedicine แต่ยังต้องเดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือด ทางโรงพยาบาลโพธิ์ทองร่วมกับ สสอ. เตรียมเปิด “สถานบริการเจาะเลือดผู้ป่วย 17 แห่ง” ทั่วอำเภอโพธิ์ทอง โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วง มกราคม 2569 นี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ในการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นโรงพยาบาลดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ “สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงได้ทุกที่อย่างแท้จริง” นายแพทย์มีโชคชัย กล่าว

ในช่วงบ่าย นายแพทย์มีโชคชัย และ นพ.สนธยา นำคณะเยี่ยมบ้าน นางบำรุง แตงเนื้อเหลือง อายุ 69 ปี ป่วยเป็นโรคความดัน เบาหวาน ไขมัน มะเร็งเต้านม และ นางดลพิสิฐ ช่วยบำรุง อายุ 61 ปี ป่วยเป็นเบาหวานมา 11 ปีที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงถึง300 ที่แพทย์ต้องติดตามใกล้ชิด
โดย นพ.สนธยา เป็นแพทย์เจ้าของไข้นางดลพิสิฐ เล่าว่าเมื่อ 7 วันก่อนผู้ป่วยได้ไปพบแพทย์ที่รพ.พบว่าน้ำตาลสูงเกิน300 ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะฉุกเฉินอย่างมาก ในอดีตคนไข้รายนี้หมอจะสั่งให้นอนรพ.เป็นผู้ป่วยใน แต่ผู้ป่วยบอกว่าไม่สะดวก ตนเลยพัฒนาการดูแลผู้ป่วยแบบโฮมวอท(Home Ward)โดยการให้คนไข้ยืมอุปกรณ์มาใช้ที่บ้าน และให้ทีมเจ้าหน้าที่รพ.สต.ใกล้บ้านเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด มีการเจาะน้ำตาลในเลือดเพื่อดูแลค่าน้ำตาลวันละ 2 ครั้ง และเมื่อได้ข้อมูลแพทย์รพ.โพธิ์ทองปรับยา หลังจากดำเนินการมา 7 วันน้ำตาลในเลือดลดลงเหลือ 120 ซึ่งถือว่าคุมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ดีมากขึ้น สุขภาพดีมากขึ้น ไม่สูญเสียรายได้ เป็นการดูแลที่ตอบโจทย์กับผู้ป่วยมาก

ด้านนางดลพิสิฐ ผู้ป่วยเบาหวาน เล่าว่า คุณหมอเจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก ก่อนหน้านี้เป็นเยอะมาก เคยน็อตไปครั้งหนึ่ง พอมาใช้แอพฯหมอพร้อม หมอเขาดูแลดีแต่ต้องทำตามหมอนัด และคุมอาหาร เมื่อ 7 วันก่อนน้ำตาลขึ้น 300 กว่า หมอให้นอนโรงพยาบาลบอกว่านอนไม่ได้ไม่มีคนเยี่ยมและมีภาระ หมอเลยส่งกลับบ้านโดยให้อสม.มาดูแล เจาะเลือดดูค่าน้ำตาลเช้า กับ บ่าย วันละ 2 รอบ และหมอก็โทรมาติดตามอาการทุกวัน ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ต่อไปก็ต้องควบคุมการกิน

“ตอนไปรพ.โพธิ์ทองต้องรอซักประวัติ เจาะเลือดฟังผล หาหมอกว่าจะได้กลับบ้านเสียเวลาเป็นวันๆ บ้างที่ก็ครึ่งวัน การที่ไม่ต้องไปรพ.มีหมอมาโทรคุยแบบนี้สะดวกดีมาก เราไม่ต้องนอนรพ. หมอเขาตรวจปกติ อสม.เจาะเลือดและส่งผลไปรพ.คุณหมอโทรมา อยากบอกว่าดีมาก สะดวกมาก ขอขอบคุณที่มีบริการแบบนี้”นางดลพิสิฐ กล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img