ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช.พร้อมด้วย นพ.นพรัตน์ พันธุเศรษฐ์ ผอ.สปสช.เขต 8 อุดรธานี และคณะลงพื้นที่ดูการเข้ารับบริการของประชาชน ที่“หน่วยบริการนวัตกรรม”30บาทรักษาทุกที่ หลังจากมีมติบอร์ดสปสช.ปรับบริการซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่5 มค.2569

จุดแรก คลินิกทันตกรรม หมอนวลละออ อำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี พบว่ามีประชาชนเข้ารับบริการตลอดเวลา ทพญ. นวลละออ เกียรติศรีธนกร กล่าวว่า 2ปีกว่าที่เปิดบริการ ประชาชนให้ความสนใจมาใช้บริการขูด หินปูน อุดฟัน ถอนฟัน จำนวนมาก ส่วนมากชื่นชอบระบบบัตรทองที่สามารถมาใช้บริการได้3ครั้งต่อปี และมีจำนวนมากที่ขอให้เพิ่มบริการถอนฟันคุด หรือทำฟันปลอม จึงอยากเสนอผู้บริหารว่าคลินิกนวัตกรรม นอกจากจะเสริมสร้างสุขภาพให้ประชาชนแล้วยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย
จากนั้นคณะได้เยี่ยมและพูดคุยกับร้านยา2แห่ง 1. ร้านยา ห้องยา9 มีภญ.วริศรา ชัยชนะทรัพย์ เป็นเจ้าของ และ2. ร้านยาไทยเจริญเภสัช มี ภญ.กรองทอง กันต์พิทยา เป็นเจ้าของ
นส. วริศรา ชัยชนะทรัพย์ เภสัชกรหญิง ของร้าน ห้องยา9 อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เห็นว่าประชาชนชื่นชม และนิยมมาใช้บริการที่ร้านยาแห่งนี้มาก เพราะเดินทางสะดวก เภสัชกรอยู่ประจำร้านตลอดเวลา เมื่อเจ็บป่วยสามารถมาพบเพื่อรับยาและปรึกษาเภสัชกรได้ทันท่วงที การปรับความถี่การให้บริการ คิดว่าประชาชนจะได้รับความสะดวกพอสมควร และอยากให้บริการนี้อยู่ต่อไปนานๆ เพราะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ดีมาก
ภญ.วริศรา ร้านยา ห้องยา9 กล่าวว่า การให้ยืนยันตัวตนไม่มีปัญหา การติดตามอาการคนที่มารับยาไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่ติดตามอาการจะ โทรศัทพ์ โทรไลน์ ประมาณ 50%ที่รับสาย ส่วนประมาณ5% ไม่รับโทรศัพท์เลย ปกติเมื่อผู้มารับบริการมา รับยาที่ร้านประมาณ 3วันก็จะโทรติดตามอาการ ผู้ป่วยที่มารับยาส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจะไม่ค่อยมีโทรศัพท์ใช้ บางคนมีโทรศัพท์แบบโทรเข้าโทรออกอย่างเดียว บางคนไม่มีโทรศัพท์เลย ทำให้ติดตามอาการได้ยาก
“ผู้สูงอายุที่มารับยาส่วนใหญ่อยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนบ้านติดตามอาการบางคนไม่ได้เลย ซึ่งตนก็เข้าใจว่าถ้าติดตามอาการไม่ได้ก็จะไม่สามารถเบิกได้กับสปสช. การติดตามอาการทุกครั้งก็จะมีหลักฐาน สามารถตรวจสอบได้ ตรงนี้ก็เป็นปัญหาเช่นกัน อยากให้สปสช.พิจารณาจุดนี้”ภญ.วริศรา กล่าว

ด้าน ภญ.กรองทอง กันต์พิทยา เจ้าของร้านยาไทยเจริญเภสัช กล่าวว่า โครงการนวัตกรรมร้านยาถือเป็นประโยชน์ที่ประชาชนได้รับอย่างมาก บางคนป่วยเล็กน้อยก็มารับยาร้านขายยาไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาลบางคนเสียเวลาเป็นวัน เสียรายได้ ร้านยาเราจะมีการซักประวัติคนไข้ที่มารับยาและมีการติดตามอาการโครงการนี้เป็นที่พึ่งของคนยากจนอย่างมาก เพราะมีความสะดวก หลังจากที่สปสช. มีมติการจ่ายยาให้ 2 ครั้งต่อเดือน มาเป็น 2ครั้งต่อคน ต่อปี หากเวลาที่เจ็บป่วยจะทำอย่างไร ตรงนี้ตนก็รู้สึกหวั่นใจอยู่เหมือนกัน
“เคยเรียกรถพยาบาลมารับคนไข้ที่มารับบริการโดยมีอาการความดันสูงมาก จากการที่เขามารับบริการที่ร้านตามสิทธิ์แต่ด้วยวิชาชีพดูแล้ว คนไข้รอไม่ไหวจึงเรียกรถ 1669 มารับเพื่อส่งต่อโรงพยาบาลอุดรธานี รวมทั้งยังมีการติดตามอาการจนคนไข้ดีขึ้นผู้ที่รับบริการยังเอากล้วยแขกมาฝากที่ร้านด้วย” เภสัชกรหญิงกรองทอง กล่าวและว่า ขอขอบคุณสปสช.แม้ว่าเราจะได้รับผลกระทบแต่เราก็เข้าใจว่าพยายามทำให้เหมาะสมที่สุด แม้ว่าทางออกจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม หวังว่าสปสช.จะไม่ทิ้งพวกเราเท่านั้นเอง
ด้าน ทันตแพทย์ อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ประชาชนไม่ต้องวิตก เรื่องการปรับบริการ ของ สปสช.ผ่านหน่วย นวัตกรรมเช่น คลินิกเวชกรรม;หรือ ร้านขายยา ให้เป็นหลักเกณฑ์ใหม่ คือให้บริการโรคทั่วไปเฉลี่ย 2 ครั้ง/คน/ปี เพราะที่ผ่านมาพบใช้บริการจริงเฉลี่ย 2.29 ครั้ง/คน/ปี และตรวจพบการเบิกจ่ายที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นตั้งแต่ วันที่ 5 มกราคม 2569 เป็นต้นไปเริ่มใช้ และ สปสช. จะเพิ่มการยืนยันตัวตน ด้วยบัตรประชาชน เมื่อประชาชนมาใช้บริการที่ ร้านยา คล้ายกับการสแกนใบหน้าและยืนยันโลเคชั่นเหมือนระบบโมบายแบงค์กิ้ง ส่วนทันตกรรม ปรับ เป็น2ครั้งต่อคนต่อปี ,บริการนวด แผนไทย1ครั้งต่อคนต่อเดือน หรือ 12 ครั้งต่อปี ส่วน มารดาหลังคลอดและ ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ให้บริการตามอาการ
ทันตแพทย์อรรถพร ย้ำว่า การเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้ จะไม่กระทบ ต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชน ตรงกันข้ามจะช่วยพัฒนาระบบให้ดีขึ้น



