เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลาขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย นพ.นพรัตน์ พันธูเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นที่ รพ.อุดรธานี หลังคว้า 2 รางวัลดีเด่นระดับประเทศ ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศไทยอย่างโดดเด่น ได้แก่ รางวัลสนับสนุนการใช้แผ่นปิดกะโหลกศีรษะเฉพาะบุคคลจากไทเทเนียมดีเด่น และ รางวัลสนับสนุนการใช้ถุงทวารเทียมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ดีเด่น ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย สนับสนุนการใช้นวัตกรรมโดยฝีมือคนไทยและลดการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ
โดยมีพญ.ศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผอ.รพ.อุดรธานี พร้อม นพ.ศราวุธ ลอมศรี ศัลยแพทย์ระบบทางอาหาร (ถุงทวารเทียม) นพ.สมสิทธิ์ นิธิธนนนท์ ศัลยแพทย์ระบบประสาท นางจิราพร ศรีบูรพา หัวหน้าพยาบาลศัลยกรรม น.ส. กมลชนก พุทธรรม พยาบาลเฉพาะทางดูแลผู้ป่วยที่ใช้ถุงทวารเทียม ให้การต้อนรับรับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็น
พญ.ศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผอ.รพ.อุดรธานี กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจและอยากให้ประเทศมีการพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์อย่างไม่หยุดหยั่ง รพ.อุดรธานี จึงร่วมขับเคลื่อนทั้งในแง่ของนโยบาย รพ. ผู้ปฏิบัติงานและผู้ป่วย ในการนำนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์โดยฝีมือคนไทยมาใช้ จนทำให้ รพ.อุดรธานี คว้ารางวัลอันดับ 1 ในการสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศไทย
นพ.สมสิทธิ์ นิธิธนนนท์ ศัลยแพทย์ระบบประสาท กล่าวว่า รางวัลสนับสนุนการใช้แผ่นปิดกะโหลกศีรษะเฉพาะบุคคลจากไทเทเนียมดีเด่น ที่เป็นนวัตกรรมไทย มีประโยชน์คนไข้มากและสิ่งที่อยากจะให้มีการพัฒนาต่อคือสามารถให้สุดทุกชาติทุกทุกประเทศ
นพ.ศราวุธ ลอมศรี ศัลยแพทย์ระบบทางอาหาร (ถุงทวารเทียม) กล่าวว่า ถุงทวารเทียมที่เป็นนวัตกรรมไทย รพ.นำมาใช้กับคนไข้ ที่ป่วยเป็นมะเร็งและเปิดหน้าท้องใช้เปลี่ยนแบบทิ้ง ซึ่งปัจจุบันใช้ได้ 3-5 วัน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยและยังช่วยประหยัดงบประมาณด้วย
ภญ.อุดมลักษณ์ รังสิยาภรณ์รัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม กล่าวว่า การส่งเสริมการใช้นวัตกรรมไทยเป็นความสำคัญที่ผู้บริหารให้การสนับสนุน โดยผู้ป่วยได้รับความรู้และความเข้าใจ รวมไปถึงการรับฟังปัญหาของผู้ป่วยก็ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งการที่ รพ.อุดรธานี ประสบความสำเร็จจนคว้ารางวัล คือ การทำงานเป็นทีม ทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจร่วมกัน และเป้าหมายหลัก คือ ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างดี

ด้านนายอนันต์ สุทธิประภา อายุ60ปี ผู้ป่วยที่ตัดลำไส้และเปิดหน้าท้อง ใช้ถุงทวารเทียม กล่าวว่า เริ่มใช้ถุงทวารเทียมมาประมาณ 1 ปีแล้ว การใช้งานก็สะดวกใช้งานง่าย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติทำงานได้ปกติ แต่ยังมีข้อที่ต้องปรับปรุงคือ อยากให้ขอบถุงทวารเทียมนิ่มลง เพราะปัจจุบันขอบถุงยังแข็งไป ก่อนจะใส่ถุงทวารเทียมต้องนวดให้นิ่มลงก่อนจึงจะใส่ได้สบาย
ด้านทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลาขาธิการ สปสช. กล่าวว่า วันนี้ สปสช.ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นที่ รพ.อุดรธานี ในฐานะที่ รพ.อุดรธานี ได้รับรางวัลดีเด่นจากการสนับสนุนการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศไทยสูงที่สุดในประเทศ โดยผู้บริหารและแพทย์พยาบาลได้เล่าถึงเทคนิคการใช้ และมีโอกาศมาเยี่ยมบ้านผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยค่อนข้างพึงพอใจในการใช้งานถุงทวารเทียม เพราะสามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น มีข้อเสนอแนะเล็กน้อยเรื่องขอบถุง ที่มีความแข็งไปนิดหน่อย ซึ่งต้องแจ้งผู้ผลิตให้ปรับปรุงต่อไป

ทั้งนี้เป้าหมายในอนาคต สปสช. ได้สนับสนุนทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น TCELS (ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์) เพื่อผลักดันนวัตกรรมที่กำลังพัฒนา การสนับสนุนนี้ช่วยให้งบประมาณภาครัฐหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ สร้างการจ้างงาน และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นการพัฒนเศรษฐกิจของไทยไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพประชาชน



