ท่ามกลางความตระหนักด้านสุขภาพผู้หญิงในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น DKSH ประเทศไทยได้ริเริ่มแนวทางใหม่เพื่อลดความวิตกกังวล และความไม่แน่นอน ที่เกี่ยวกับสุขภาพปากมดลูก ที่ผู้หญิงจำนวนมากต้องเผชิญ พร้อมมอบทางเลือกการดูแลเชิงรุกที่ผ่านการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์และผ่านการรับรองทางคลินิก พร้อมแนะนำ “เจลสเปรย์สำหรับช่องคลอด” ที่ได้รับการคิดค้นพัฒนามาเพื่อช่วยดูแลความผิดปกติของปากมดลูกที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 27 พฤศจิกายน 2025 – หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ DKSH ประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ให้โซลูชันเชิงกลยุทธ์ด้านสุขภาพและผู้นำด้านบริการขยายตลาด (Market Expansion Services) สำหรับผลิตภัณฑ์ยา เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพทั่วไป และอุปกรณ์การแพทย์ ได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพ และสื่อมวลชน มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการดูแลเชิงรุก และผลกระทบทางอารมณ์ต่อผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชพีวี (HPV)
เมื่อเร็ว ๆ นี้ DKSH ได้เปิดตัวเจลสเปรย์สำหรับช่องคลอด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยดูแลความผิดปกติของปากมดลูกที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยให้ผู้หญิงมีทางเลือกในการดูแลเชิงรุก ที่ช่วยเพิ่มอัตราการกำจัด HPV ได้มากขึ้นถึงสองเท่าและช่วยให้รอยโรคปากมดลูกระยะเริ่มต้นฟื้นตัวได้ดีขึ้น1,2 โดยเฉพาะในช่วง “รอดูอาการ” เพื่อเฝ้าระวังและติดตามผล ที่มักใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของปากมดลูกในระยะเริ่มต้น งานครั้งนี้ จึงมุ่งสร้างความเข้าใจ ลดความกลัว ส่งเสริมการฟื้นตัวของรอยโรค ลดความเสี่ยงในอนาคต และย้ำถึงความสำคัญของการดูแลผลกระทบทางด้านอารมณ์ของผู้ป่วยไปพร้อมกัน
การรับมือกับปัญหาสุขภาพที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญสำหรับผู้หญิง โดยเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองในผู้หญิงไทย HPV ถือเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก โดยส่วนใหญ่การติดเชื้อ HPV ประเภทเชื้อที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือผู้ป่วยที่พบความผิดปกติของปากมดลูกระยะเริ่มต้น เช่น Low-grade Squamous Intraepithelial Lesions (LSIL) หรือ Cervical Intraepithelial Neoplasia grade 1 (CIN1) แพทย์มักใช้วิธี “รอดูอาการ” เพื่อเฝ้าระวังและติดตามผล เนื่องจากร่างกายมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้เอง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาจพบการติดเชื้อเรื้อรัง เนื่องจากเชื้อ HPV บางส่วนสามารถคงอยู่เป็นระยะเวลานาน3* และ 31% ของผู้หญิงที่มีความผิดปกติของปากมดลูกในระดับรุนแรง อาจเสี่ยงต่อการพัฒนาไปสู่มะเร็งปากมดลูกได้4Ɨ นอกจากนี้ผู้หญิงจำนวนมากยังเผชิญกับความเครียดและวิตกกังวลตลอดระยะเวลาการรอติดตามอาการอีกด้วย5
รองศาสตราจารย์นายแพทย์วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานคณะอนุกรรมการมะเร็งนรีเวช ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย (RTCOG) กล่าวว่า “แม้แนวทางรอดูอาการเพื่อเฝ้าระวังและติดตามผล จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HPV ประเภทความเสี่ยงต่ำ และหลายกรณีสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกกลัวและมีความกังวลตลอดช่วงการรอติดตามผล สิ่งสำคัญคือการให้การสนับสนุนที่ทันเวลา ที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ของผู้ป่วย ทางเลือกในการดูแลเชิงรุกสำหรับผู้หญิง จะช่วยคลายความวิตกกังวลและความกลัวเกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคที่อาจลุกลามได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการดูแลตัวเองเชิงรุกได้อย่างมั่นใจ แทนการรอคอยด้วยความกังวลเพียงอย่างเดียว”
นายแพทย์โอฬาริก มุสิกวงศ์ หัวหน้าคลินิกเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า “HPV เป็นเชื้อที่พบได้บ่อยมาก ประมาณ 80% ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์มีโอกาสติดเชื้ออย่างน้อยครั้งหนึ่ง แม้ว่าส่วนใหญ่จะหายได้เองตามธรรมชาติ แต่หากเชื้อยังคงอยู่และมีอาการเรื้อรังอาจมีโอกาสพัฒนาเป็นรอยโรคหรือมะเร็งปากมดลูกได้ อย่างไรก็ตาม ความอาย ความไม่เข้าใจ และความเชื่อผิด ๆ มักทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่กล้าพูดหรือเข้ารับการตรวจรักษา ส่งผลให้การรักษาล่าช้า จึงจำเป็นต้องทำให้การพูดคุยเรื่องสุขภาพปากมดลูกเป็นเรื่องปกติ และต้องทำให้เกิดการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าถึงง่าย เพื่อให้ผู้หญิงสามารถตัดสินใจดูแลสุขภาพได้อย่างมั่นใจตั้งแต่เนิ่น ๆ”
นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพผู้หญิง คุณแม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน จากเพจ Maxdicine และ คุณมณฑิรา เปี่ยมรัตนวงศ์ – แพรรี่อินวันเดอร์แลนด์ ยังได้ร่วมเปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับ HPV ภายในงานอีกด้วย
ภญ.พัชราวลัย ว่องรักษ์สัตว์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารการตลาด หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “DKSH มุ่งมั่นในการเสริมพลังให้ผู้หญิงด้วยข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้องและเข้าถึงได้ง่าย เพราะการดูแลเชิงรุกเริ่มต้นจากการมีความเข้าใจที่ถูกต้อง เป้าหมายของเราคือการนำเสนอทางเลือกด้านการดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์ไม่ใช่แค่ด้านการรักษาเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสุขภาวะทางอารมณ์ของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพปากมดลูกอีกด้วย ที่ DKSH เรามุ่งส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงรุก ผ่านความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพ เพื่อมอบองค์ความรู้ที่เชื่อถือได้และช่วยให้ผู้หญิงเข้าถึงทางเลือกที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเธอมีความมั่นใจ ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน และสามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น”
โซลูชันด้านสุขภาพสตรีที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ DKSH ประเทศไทย ได้เปิดตัวเจลสเปรย์สำหรับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่สำหรับช่วยดูแลความผิดปกติของปากมดลูกที่เกิดจากติดเชื้อ HPV ตั้งแรกระยะเริ่มต้น ด้วยส่วนผสมที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกได้รับการพิสูจน์ว่าช่วยเพิ่มอัตราการกำจัด HPV ได้มากขึ้นถึงสองเท่า1,2, สนับสนุนการฟื้นฟูรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้มากถึง 95.7%1,2 และช่วยฟื้นสมดุลจุลินทรีย์ในช่องคลอด รวมถึงส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อปากมดลูกตามธรรมชาติ1 ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับการดูแลความผิดปกติของปากมดลูกระยะเริ่มต้น หรือติดเชื้อ HPV ประเภทความเสี่ยงต่ำ ด้วยวิธีการใช้งานที่ง่าย จึงสะดวกสำหรับการใช้ที่บ้านโดยต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำและใบสั่งแพทย์ ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพปากมดลูกเชิงรุก ส่งเสริมการฟื้นฟู ลดความเสี่ยงในอนาคต เสริมสร้างความมั่นใจในระหว่างการรอดูอาการและติดตามผล
เกี่ยวกับ DKSH
ภารกิจสำคัญของ DKSH คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ตลอดระยะเวลา 160 ปี DKSH ได้ส่งเสริมการ เติบโตของบริษัทต่าง ๆ ในเอเชียและทั่วโลก ผ่านหน่วยธุรกิจหลักทั้ง 4 ได้แก่ หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Healthcare) หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม (Performance Materials) และหน่วยธุรกิจเทคโนโลยี (Technology) ในฐานะผู้ให้บริการขยายตลาดชั้นนำ DKSH ให้บริการด้าน การจัดหาวัตถุดิบ การตลาดและการขาย อีคอมเมิร์ซ การจัดจำหน่ายและโลจิสติกส์ รวมถึงบริการหลังการขาย DKSH เข้าร่วมโครงการ United Nations Global Compact และปฏิบัติ ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างมี ความรับผิดชอบ โดยบริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิส (SIX Swiss Exchange) และดำเนินธุรกิจใน 36 ประเทศ มีบุคลากรกว่า 28,060 คน สร้างยอดขายสุทธิ 11.1 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2567 หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (DKSH Business Unit Healthcare) จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) และอุปกรณ์การแพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญราว 7,940 คน และสร้างรายได้สุทธิ 5.7 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2024 www.dksh.com/hec



