โมเดลกองทุนฟื้นฟูสมรรภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดลำปางดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ให้เข้าถึงบริการสาธารณสุข
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 เภสัชกรคณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ลงพื้นที่เยี่ยมชม“โมเดลกองทุนฟื้นฟูสมรรถาพที่จำเป็นต่อสุขภาพฯ จังหวัดลำปาง : กลไกขับเคลื่อนด้านสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อผู้สูงอายุคน พิการในพื้นที่ จังหวัดลำปาง” เป็นหนึ่งในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ สปสช. ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ โดยมีนางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง พร้อมทีมคณะ อบจ.ลำปางให้การต้อนรับ
นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกอบจ.ลำปาง กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูสมรรภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดลำปางจัดตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้บันทึกความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางมีส่วนร่วมในการสร้างหลักประกันสุขภาพด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการสนับสนุนบริการสุขภาพสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งมีความต้องการเฉพาะทาง ในการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ สนับสนุนหน่วยบริการและครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยระยะยาว และคุณภาพชีวิตชีวิตที่ดีของประชาชนในจังหวัดลำปาง มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง ทำให้เกิดการดำเนินงานภายในพื้นพื้นที่ทั้งในเรื่องการจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในชุมชน การจัดบริการให้ยืมกายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เหมาะสม การจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสม ให้กลุ่มเป้าหมายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“การดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง 2568 มีดังนี้ 1. สนับสนุนการจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพและจัดหาอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการให้กับหน่วยบริการ สาธารณสุขในจังหวัดลำปาง จำนวน 16 แห่ง งบประมาณทั้งสิ้น 460,300 บาท2. สนับสนุนการยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้มีสิทธิได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ผ่านโครงการศูนย์ยืม – คืน กายอุปกรณ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้มีสิทธิได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ได้สนับสนุนงบประมาณและเบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 1,397,696.47 บาท จำนวน 5 หน่วยงาน 3. สนับสนุนการจัดสภาพแวดล้อมหรือบริการขั้นพื้นฐานให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น ผ่านโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ในปีงบประมาณ 2568 สนับสนุนงบประมาณและเบิกจ่ายไปแล้ว ทั้งสิ้น 1,400,630 บาท จำนวน 29 ราย (ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการฯ) และ 4.การสนับสนุนตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพฯ ผ่านโครงการสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ สำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลที่มีภาวะปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจาระไม่ได้ ซึ่ง ในปีงบประมาณ 2568 ได้สนับสนุนงบประมาณและเบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 332,794.50 บาท จำนวน 2 หน่วยงาน
นายกอบจ.ลำปาง กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง ประสบความสำเร็จ คือการนำนโยบายสู่การปฏิบัติงาน โดยได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ อปท. โรงพยาบาล ภาคเอกชน ชุมชน และการสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการฟื้นฟูในชุมชน เช่น กายภาพบำบัด พยาบาลวิชาชีพ นักบริบาล
“จากการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง พบว่าการสนับสนุนงบประมาณในโครงการต่าง ๆ เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน และตอบสนองความต้องการอย่างตรงจุด ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ส่งเสริมให้สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระมากขึ้น และเพิ่มการหนุนเสริมให้ภาคชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน” นายกอบจ.ลำปางกล่าว
ด้านเภสัชกรคณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการสปสช. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟัง การขับเคลื่อนงานและการบริหารกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง เป็นหนึ่งในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ สปสช. ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ โดยร่วมสมทบงบประมาณค่าบริการสาธารณสุข จำนวน 8 บาท ต่อหัวประชากร เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ และการให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพในจังหวัดอย่างครบวงจร มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
“กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ลำปางถือว่าเป็น กองทุนที่บริหารจัดการโดย อบจ. ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกองทุนที่มุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด ซึ่งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัดเป็นกลไกด้านสุขภาพที่สำคัญ ช่วยดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนในพื้นที่ เข้าถึงบริการสาธารณสุขรวมทั้งกองทุนฯมีการบริหารจัดการที่ดีส่งผลให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามเป้าหมาย” ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช.กล่าว
ทั้งนี้ ภาพรวมของกองทุนฟื้นฟูฯปี 2568 มีกองทุนฟื้นฟูฯ เข้าร่วมจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 74 จังหวัด (อบจ.ทั้งหมด 76 จังหวัด) มีการสนับสนุนโครงการสำหรับศูนย์ยืม-คืน ซ่อม อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการจัดสภาพแวดล้อมหรือบริการขั้นพื้นฐานเพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับการ ดูแลอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นในช่วงบ่ายคณะฯ ลงเยี่ยมบ้าน 2 หลัง โดยผู้ป่วยรายแรก เป็นโครงการจัดตั้งศูนย์ยืม–คืน กายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้มีสิทธิได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านศาลาไชย อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยผู้ได้รับจากโครงการ นายกมล แดงคะปวง อายุ 75 ปี มีประวัติเคยเกิดอุบัติเหตุ ปัจจุบันผู้ป่วยนอนติดเตียงมาแล้ว 3 ปี เนื่องจากมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ไม่สามารถลุกนั่งหรือเคลื่อนไหวด้วยตนเองได้ ต้องมีคนคอย ช่วยเหลือ ADL 1คะแนน โดยอุปกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุน คือ เตียงเฟาว์เลอร์ แบบ 3 ไกร์ ชนิดมือหมุนและรถเข็นแบบปรับและพับได้
จากนั้น คณะลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วยรายที่ 2 ในพื้นที่เทศบาลตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปางตามโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ช่วยดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนในพื้นที่) นางบุญมา นันทกูล อายุ 75 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 2 ตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ ผู้พิการทางการมองเห็นและทางการเคลื่อนไหวหรือ ทางร่างกาย มีโรคประจำตัวเป็นโรคความตันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดโรคแทรกช้อน ตามองไม่เห็น ปวดเข่า ปวดขา เดินไม่สะดวก ใช้ไม้ช่วยพยุงเดิน เป็นมานาน 5 ปี สถานสภาพหม้าย อาศัยอยู่คนเดียว มีความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน มีรายได้จากเบี้ยผู้พิการและเบี้ยผู้สูงอายุ สภาพบ้านเป็นบ้านไม้ ชั้นเดียว ยกพื้นสูง บันไดสูงชัน ผู้ป่วยขึ้นลงลำบาก ห้องน้ำอยู่ติดตัวบ้าน ห้องน้ำมีสภาพดีใช้งานได้ปกติ ของบประมาณต่อเติมห้องนอนใต้ถุนบ้าน 1 ห้อง เทพื้นบริเวณใต้ถุนบ้านและทำการสาดป้องกันฝนฝนบริเวณที่ใช้นั่งพักเวลากลางวัน งบประมาณ 40,000 บาท.