สปสช.ร่วมกับ 10 หน่วยงานใน จ.นครพนม เร่งผลักดันให้คนไทยไร้สิทธิเข้าถึงหลักประกันสุขภาพ และสวัสดิการต่างๆ เช่นเดียวกับ อปสข. และ อคม. เขต8 ที่เดินหน้าช่วยกันแก้ปัญหาทั้งเชิงรุกและเชิงรับ
วันนี้(19 มิถุนายน 2568) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ร่วมกับ 10 หน่วยงาน ประกอบ สำนักงานปกครองจังหวัดนครพนม, คณะสงฆ์จังหวัดนครพนม, สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครพนม, โรงพยาบาลนครพนม ,สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม, องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.นครพนม), เทศบาลเมืองนครพนม, ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม ,ศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองสิทธิคดีค้ามนุษย์จังหวัดนครพนม และ สปสช. เขต 8 อุดรธานี ร่วมทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู:MOU) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาผู้มีสิทธิสถานะทางทะเบียน และกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิบัตรทองใน จ.นครพนม เพื่อให้เข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ และสวัสดิการขั้นพื้นฐาน พัฒนาการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง เท่าเทียม รวมถึงพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และระบบข้อมูลของผู้ที่มีปัญหาสถานะบุคคล
นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้สัมภาษณ์หลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่า การทำเอ็มโอยูครั้งนี้จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยล่าสุดได้กำชับให้ทุกอำเภอตรวจสอบทุกครัวเรือน ช่วยค้นหาผู้ที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฏร์ ให้มารับบริการตรวจ DNA เพื่อยืนยันสิทธิ์ความเป็นคนไทย อีกทั้งการที่ สปสช.ได้เชิญชวนให้ 10หน่วยงานในจ.นครพนมมาร่วมกันถือเป็นเรื่องดี เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมามีผู้มายื่นคำร้องขอตรวจดีเอ็นเอจำนวน 3 รายแล้ว
ด้าน นพ.นฤพนธ์ ยุทธเกษมสันต์ ผอ.รพ.นครพนม กล่าวว่า ทางรพ.นครพนมมีความยินดีและพร้อมเป็นหน่วยบริการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อแก้ปัญหาให้กลุ่มคนไทยไร้สิทธิ โดยจะเปิดหน่วยเก็บสิ่งส่งตรวจอย่างเป็นทางการ และถือเป็นแห่งแรกในพื้นที่สปสช.เขต8 ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568นี้
ในวันเดียวกัน ยังมีการประชุมคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่(อปสข.) และ คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขระดับเขตพื้นที่(อคม.) เขต8 อุดรธานี เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพร่วมกัน หนึ่งในนั้นก็คือ การแก้ปัญหาให้กลุ่มคนไทยไร้สิทธิ
ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ประธาน อปสข. กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับให้พื้นที่ทำงานทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ร่วมกับภาคีเครือข่าย เร่งสำรวจค้นหาคนไทยที่ตกหล่น พาเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตัวตน ให้ได้รับบัตรประชาชน ได้รับสิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน