28.1 C
Thailand
พฤหัส, มิถุนายน 19, 2025
spot_img

ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม จับมือภาคีเครือข่าย ช่วย “คนไทยไร้สิทธิ” ได้ตรวจ DNA ยืนยันสถานะทางทะเบียน เพื่อเข้าถึงสิทธิสวัสดิการสุขภาพผ่าน “ระบบบัตรทอง”

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 พญ.อรวรรณ นิมิตรวงศ์สกุล ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 8 อุดรธานี พร้อมด้วย นายวันชัย นักบุญ ประธานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม และคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามช่วยเหลือคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนของกลุ่มคนไทยที่ตกหล่นจากระบบทะเบียนราษฎร์ ซึ่งไม่มีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้านให้มีบัตรประชาชน เพิ่มการเข้าถึงสิทธิทางสุขภาพ

ผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนที่บูรณาการร่วมกัน เช่น ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม, สมาคมคนพิการจังหวัดนครพนม ,เทศบาลเมืองนครพนม ,โรงพยาบาลนครพนม, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่อ.เมือง และ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

นายวันชัย นักบุญ ประธานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า หลังจากที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนจากอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่(อปสข.) เขต 8 อุดรธานี ได้เริ่มดำเนินการทันที โดยประสานการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เช่น สมาคมคนพิการจังหวัดนครพนม รพ.นครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ฯลฯ เพื่อค้นหาผู้ที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนในพื้นที่ทั้งในเชิงรับและเชิงรุก

ปัจจุบันมีการค้นพบผู้ที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนแล้ว 14 คน และได้ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของ กระทรวงมหาดไทย(มท.) โดยนำเอกสารหลักฐานการยืนยันตัวตนไปให้กับสำนักทะเบียนของ อปท. ในแต่ละพื้นที่ และบางรายที่เอกสารหลักฐานไม่เพียงพอสำหรับยืนยันสถานะทางทะเบียน ได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอตรวจสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ:DNA) เพื่อยืนยันสถานะทางทะเบียนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอรับการตรวจสารพันธุกรรมที่รพ.นครพนม จะเปิดหน่วยบริการในการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจวันที่ 31 ก.ค. 2568

นายวันชัย เผยต่อว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ประชาชนบางส่วนใน จ.นครพนม มีปัญหาสถานะทางทะเบียน แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การขาดความรู้และไม่เห็นความสำคัญของการมีบัตรประชาชน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่การรับสิทธิสวัสดิการจากรัฐ การที่ จ.นครพนม ตั้งอยู่ติดชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้มีการเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างประเทศ จนอาจเกิดปัญหาสถานะทางทะเบียน ซึ่งคาดว่ายังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการดูแล

“การมีเครือข่ายร่วมกันทำงานถือเป็นส่วนสำคัญมาก อย่าง 2 ราย ที่อ.เมือง กับ อ.ศรีสงครามที่มาดูในวันนี้ก็ค้นพบจากภาคีเครือข่าย คนแรกเกิดจากทางสมาคมคนพิการฯ และฝ่ายสังคมสงเคราะห์ของรพ.นครพนม ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลพบจากผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องสิทธิการรักษา และไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงได้ ทางฝ่ายสังคมสงเคราะห์และศูนย์ฯ จึงร่วมกันดำเนินการช่วยเหลือ ก่อนจะพบว่าเป็นคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน เพราะมารดาไม่ยอมไปแจ้งเกิด และได้ช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับสิทธิขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจ ดีเอ็นเอ

กับอีกรายเป็นคนไทยมีสามีเป็นคนลาว เคยมีบัตรประชาชนแต่ไปอยู่ลาวนานทางทะเบียนราษฎร์ได้คัดชื่อออกทำให้เป็นคนตกหล่นและอยากมาอยู่เมืองไทยโดยกลับมาพร้อมลูกสาวจนลูกสาวเกิดอุบัติเหตุจนขาหักไปรักษารพ.มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.2 แสนบาท ซึ่งมารดาได้เพิ่มชื่อและรับบัตรประชาชนแล้วเหลือแต่ลูกสาวรอดำเนินการตรวจ ดีเอ็นเอเช่นกัน” นายวันชัย กล่าว

ด้าน นายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่หลายภาคส่วนมาร่วมมือกัน เพราะที่ผ่านมาหากพบคนที่ไม่ได้รับสวัสดิการจากรัฐเนื่องจากปัญหาทางทะเบียน ทางเทศบาลจะสอบสวนข้อมูลภูมิหลังตั้งแต่เกิด เพื่อหาหลักฐานยืนยัน และให้ผู้นำชุมชนหรือผู้ใหญ่บ้านรับรอง ก่อนจะส่งไปตรวจ DNA โดยเทศบาลช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางด้วย โดยก่อนหน้านี้ต้องเดินทางไกลถึงโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แต่ปัจจุบันโรงพยาบาลนครพนมจะสามารถเก็บสิ่งส่งตรวจ DNA ได้แล้วในเดือน ก.ค. 2568 พร้อมมีงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ

นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทางเทศบาลจะนำเคสที่ได้รับการตรวจยืนยันแล้วเป็นกรณีศึกษา และเดินหน้าตรวจสอบเชิงลึกในพื้นที่ว่ายังมีผู้ที่เป็นคนไทยแต่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนจนไม่มีสิทธิเข้าถึงสวัสดิการ เพื่อคืนสิทธิให้กับเขาในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่ง

“ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกัน ทั้ง สปสช. ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง โรงพยาบาลนครพนม การตรวจยืนยันสถานะทางทะเบียน ไม่สำคัญว่าเขาเป็นคนที่ไหน ขอแค่เป็นคนไทย ก็ต้องมีสิทธิ ไม่ว่าจะยากดีมีจน อยู่ไกลหุบเขาลำห้วย ก็ต้องเข้าถึงสวัสดิการอย่างเท่าเทียม” นายนิวัติ กล่าว

ขณะที่ ดร.นิติเวช นนท์จันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลสามผง กล่าวว่า ขณะนี้ทางเทศบาลต.สามผง กำลังสำรวจพื้นที่ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน เพื่อตรวจสอบว่ามีผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนอีกกี่ราย เพื่อช่วยให้มีบัตรประชาชนและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการจากรัฐ เพราะผู้ที่มีปัญหามักเป็นผู้มีรายได้น้อย การไม่สามารถเข้าถึงสิทธิจะยิ่ง ทำให้เขาเกิดความลำบากมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการค้นหาผู้ที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนในพื้นที่ ทางเทศบาลจะเข้าดำเนินการยืนยันสถานะของผู้ที่มีปัญหา พร้อมประสานงานกับ รพ.สต. และรพ.นครพนม ในกรณีที่ต้องตรวจสารพันธุกรรมเพื่อยืนยันสถานะ

ในช่วงบ่ายคณะได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผู้มีปัญหาตกหล่นสถานะทางทะเบียน 2 ราย ได้แก่ น.ส.วาสนา ใจหาญ อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม และ นางคำปอง ฝ่ายทะแสง อายุ 46 ปี อาศัยอยู่ที่ ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งทั้ง 2 คนได้ยื่นคำร้องขอตรวจ ดีเอ็นเอ แล้ว และอยู่ระหว่างรอรับการตรวจที่รพ.นครพนม หลังจากโรงพยาบาลเก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว จะส่งต่อไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โดยใช้เวลาประมาณ 30 วันในการทราบผล ซึ่งหากได้รับการยืนยัน ทั้ง 2 คนจะเข้าสู่กระบวนการทำบัตรประชาชน และลงทะเบียนสิทธิรักษาในระบบบัตรทองต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img