28.1 C
Thailand
พุธ, สิงหาคม 6, 2025
spot_img

รพ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ให้บริการเชิงรุก ใช้งบ กปท. จัดนวัตกรรม “เทเลเมดิซีน” (Telemedicine) ดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่สูง

รพ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ให้บริการเชิงรุก ใช้งบ กปท. จัดนวัตกรรม “เทเลเมดิซีน” (Telemedicine) ดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่สูง ผู้ป่วย 900 คน สามารถคุมความดันโลหิตสูง ได้เกือบครึ่ง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการรอคอย และความแออัดใน รพ.

วันนี้ (5 สิงหาคม 2568) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.สปสช.เขต1 เชียงใหม่ และนางสาวจินตนา สันถวเมตต์ ผอ.กลุ่ม สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการพัฒนารูปแบบการให้บริการ เทเลเมดิซีน(Telemedicine) ดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่สูง ที่โรงพยาบาลเชียงดาว ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ด้วยงบสนับสนุน กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่(กปท.) องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว โดยมี นายแพทย์พิสิษฐวุฒิ อยุทธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงดาว นายสมบัติ ประธานราษฎร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เชียงดาว และ นางสาววิไลพร หม่อม กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลเชียงดาว ให้การต้อนรับ

นายแพทย์พิสิษฐวุฒิ อยุทธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงดาว กล่าวว่า โรงพยาบาลเชียงดาว เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ ขนาด 120 เตียง มีระบบบริการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ งานบริการเชิงรับ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของงานบริการผู้ป่วยใน เป็นการรับบริการผู้ป่วยเพื่อนอนในโรงพยาบาล และอีกส่วนคืองานบริการแผนกผู้ป่วยนอก เป็นบริการรักษาแบบไปกลับ ซึ่งแผนกผู้ป่วยนอกในแต่ละวัน จำนวน 400-600 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ได้รับการนัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้ป่วยกลุ่มโรคอายุรกรรมประสาทและสมอง ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ต้องได้รับการติดตามอาการ รักษา พร้อมรับยาต่อเนื่อง และจำเป็นต้องได้รับการนัดหมายอย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง

“มีผู้ป่วยบางกลุ่มในพื้นที่สูง มีประวัติขาดนัดหรือผิดนัดบ่อย จากการสอบถามข้อมูลรายบุคคลของผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลที่พาผู้ป่วยมาตรวจตามนัดที่โรงพยาบาลพบว่าผู้ป่วยและญาติกลุ่มนี้ มีปัญหาความลำบากในการเดินทาง บนดอยสูง ระยะทางไกล หรือความกันดารของเส้นทางที่ต้องใช้ในการเดินทาง ความลำบากในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถและลงรถเพื่อมาตรวจที่ห้องตรวจโรคที่ รพ.เชียงดาว รวมถึงมีความแออัด ระยะเวลารอคอยนาน และเสียค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในช่วงที่มาโรงพยาบาล อาทิ ค่ารถเหมามารพ. ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายต่างๆ หากมีผู้ดูแล หรือญาติ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้มีประเด็นคือญาติผู้ดูแลไม่มีเวลาหรือมีเวลาว่างไม่ตรงกับวันที่นัดตรวจของผู้ป่วย” นายแพทย์พิสิษฐวุฒิ กล่าว

ผอ.รพ.เชียงดาว กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหา รพ.เชียงดาว จึงมีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ดำเนินงาน การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการการแพทย์ทางไกล ผู้ป่วยคลินิกเฉพาะโรคในกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูง มาใช้เพื่อลดภาระให้กับผู้ป่วยในพื้นที่ โดยมีการวางระบบนี้มาประมาณ 2-3 ปีโดยมีการปรับปรุงเป็นระยะ ช่วงแรกมีปัญหาติดขัดบาง เพื่อหาจุดสมดุลให้กับคนไข้ จากที่ให้บริการผลตอบรับค่อนข้างดีมาก คนไข้ญาติพึงพอใจ ลดค่าใช้จ่ายทางตรงและทางอ้อม การขาดนัดคนไข้ลดลง เพราะมีเครือข่ายอสม.ซึ่งรู้จักทุกคนในหมู่บ้าน การรักษาก็ต่อเนื่องมากขึ้นเรียกว่า ใกล้บ้าน ใกล้ใจ คนไข้ไม่ขาดยา ปฏิบัติตัวตามคำแนะนะของแพทย์ โรคแทรกซ้อนน้อยลง

ด้านนางสาววิไลพร หม่อม กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลเชียงดาว กล่าวว่า รพ.เชียงดาว เริ่มนำเทเลเมดิซีนมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง หรือรักษาผ่านระบบออนไลน์มาตั้งแต่ พค.2566 โดยมีผู้ป่วย 900 คน สามารถควบคุมความดันโลหิต ได้ถึงร้อยละ 48.97

“การนำเทเลเมดิซีน มาใช้ในผู้ป่วยบัตรทองพื้นที่สูง เป็นการรักษาพบแพทย์ทางผ่านระบบออนไลน์ ที่เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และมีอาการคงที่ เมื่อแพทย์ดูอาการแล้วไม่ต้องมารับบริการได้ จะส่งยาให้กับผู้ป่วยที่บ้านผ่าน อสม. และในปีนี้ ได้เพิ่มนวัตกรรมส่งยาแบบ Health Rider ให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อลดการเดินทางและลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วย” นางสาววิไลพร กล่าว

ด้านนายสมบัติ ประธานราษฎร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว (อบต.) กล่าวว่า อบต.ได้ใช้งบ กปท. มาสนับสนุนเสริม “โครงการพัฒนารูปแบบการให้บริการ Telemedicine ในโรคความดันโลหิตสูง” ของรพ.เชียงดาว เพราะมีคนบนดอย หรือพื้นที่สูง ที่ป่วย มารับบริการไม่สะดวกซึ่งการนำรูปแบบการรักษาแบบใหม่นี้จะช่วยประชาชนในพื้นที่ได้มากอีกทั้งทาง กปท.ได้สนับสนุนรถรับส่งผู้ป่วย มาแล้ว 1 ปี ผลตอบรับดีมาก และในปีนี้จะสนับสนุนรถรับส่งยาเพิ่มด้วยแบบ Health Rider

“อบต.เชียงดาว ดูแลหมู่บ้านทั้งหมด 16 หมู่บ้านแบ่งเป็นพื้นที่ราบ 5 หมู่บ้าน และพื้นที่บนดอยหรือพื้นที่สูง 11 หมู่บ้าน หากประชาชนเจ็บป่วยต้องมารพ.การสัญจรก็ลำบาก เราสนับสนุนงบ กปท. ให้กับ รพ. และประสานกับ อสม. โดยจะมีการประชุมทุกเดือนในการประสานคนป่วยไข้ เนื่องจากพื้นที่ต.เชียงดาวส่วนใหญ่อยู่บนดอย ได้โครงการนี้มาช่วยได้มาก ซึ่งพบว่ามีคนป่วยก็ไม่ต้องมารพ.แต่พบหมอทางไลน์ ทำให้พวกเขาลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปมาก”นายกอบต.เชียงดาว กล่าว

นอกจากนี้ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.สปสช.เขต1 เชียงใหม่ และนางสาวจินตนา สันถวเมตต์ ผอ.กลุ่ม สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ยังได้ลงเยี่ยมชมดูคลินิกหมอครอบครัวของรพ.เชียงดาว ที่หมอรักษาคนไข้ผ่านระบบเทเลเมดิซีน

และช่วงบ่ายลงเยี่ยมบ้านนางแสงเดือน วังป่าตาล ผู้ป่วยสูงอายุโรคความดันโลหิตสูง และต้องดูแลป้าอายุ 80 ปีซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้างรวมถึงน้องสาวที่พิการป่วยเป็นเนื้องอกที่สมองและป่วยติดเตียง อยู่ที่ หมู่ 5 บ้านถ้ำเชียงดาว ซึ่งจะพบหมอด้วยการใช้ระบบเทเลเมดิซีน นางแสงเดือน เล่าว่า ดีใจมากที่รพ.ในช้ระบบเทเลเมดิซีนในการหาหมอโดยไม่ต้องลงจากดอยไปรพ. ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินางไปพบหมอรพ. ซึ่งหากไปรพ.ต้องรอคิวนาน เสียค่ารถเช่าเหมาไปรพ.อีก พอมีการหาหมอผ่านระบบทางไกล ซึ่งดีมาก แม้แต่น้องสาวที่ป่วย หรือป้าที่ตาบอดก็ตาม ทำให้ตนมีเวลาในการดูแลน้องและป้าได้มากขึ้น

ด้านทพ.อรรถพร รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า วันนี้ สปสช.มาเรียนรู้ระบบเทเลเมดิซีน ในพื้นที่สูงที่นี่น่าสนใจ มีแพทย์ ดูแลมี อสม.ในพื้นที่ และนอกจากนั้นได้รับการสนับสนุน จาก กปท.เชียงดาวมี อสม.ที่เข้มแข็ง ที่นี่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง คนไข้มาพบหมอต้องมีค่าใช้จ่ายเดินทาง ค่าอาหาร ถ้านำระบบเทเลเมดิซีนมาใช้จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

“วันนี้มาที่ รพ.เชียงดาว รับฟังแล้ว น่าจะเป็นพื้นที่นำร่องในการนำเทเลเมดิซีนมาใช้ในพื้นที่สูง กับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง มีท้องถิ่นโดยนายก อบต.เชียงดาว ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น หนุนเสริมเรื่องรถพยาบาล รับส่งผู้ป่วยโดยสามารถใช้งบ กปท.ได้ ซึ่งสปสช.จะปรับงบประมาณ กติกาให้เข้ากับพื้นที่เฉพาะ โดยให้ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป” รองเลขาธิการสปสช.กล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img