22 C
Thailand
ศุกร์, ตุลาคม 24, 2025
spot_img

ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์ ลงพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รุกพัฒนาศักยภาพเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ความรู้เข้าถึงสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกับคนในชุมชนด้วยภาษาท้องถิ่น

ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์ ลงพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รุกพัฒนาศักยภาพเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ความรู้เข้าถึงสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกับคนในชุมชนด้วยภาษาท้องถิ่น โดยมีผู้แทนประชาชนเผ่าลาหู่ และเผ่าม้ง ร่วมแลกเปลี่ยนการใช้สื่อภาษาชนเผ่า

 

วันที่ 4 สิงหาคม 2568 นางสาวกิ่งแก้ว จั๋นติ๊บ ประธานศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์ และนางสาวจินตนา สันถวเมตต์ ผอ.กลุ่ม สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์ ณ ชุมชนห้วยจะค่าน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถึง “การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ความรู้สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพคนในชุมชน : ภาษาท้องถิ่น“ โดยมีนายภูวนาท  ยืนยง ผอ.รพ.สต.บ้านปางเฟือง อ.เชียงดาว  นายสมชาย ขจิตเพชรงาม ผู้นำศาสนาคริตส์ในชุมชนห้วยจะค่าน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายณัฐภัทร์ นิษฐ์ติเกรียงไกร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยจะค่าน และนางสาวทินกร ขันตรี ผอ.รพ.สต.บ้านปางมะเยา รวมแลกเปลี่ยน

นางสาวกิ่งแก้ว กล่าวว่า  จากข้อมูลของสปสช. เขต 1 เชียงใหม่ มีประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ใช้สิทธิบัตรทองจำนวนมาก หลายครั้งที่กลุ่มชาติพันธุ์ไปใช้สิทธิบัตรทองยังพบปัญหาอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิและการเข้ารับบริการการตามสิทธิ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุในกลุ่มชาติพันธุ์พื้นที่ห่างไกล ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์จึงได้ริเริ่มการพัฒนากลไกการสื่อสารที่จำเป็นต่อผู้ใช้สิทธิบัตรทองกลุ่มชาติพันธุ์ให้เกิดการรับรู้ทั้งด้านสิทธิและหน้าที่ระบบบัตรทอง เพราะเราเห็นความจำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ การสื่อสารหรือภาษาที่ไม่เข้าใจและทำให้เข้าถึงบริการยาก เพราะผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งเพื่อลดความขัดแย้งการสื่อสารของผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ 

นางสาวกิ่งแก้ว กล่าวต่อว่า  ในปี 2567-2568 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบสนองต่อข้อเสนอ และเกิดความร่วมมือกับ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ผลิต spot วิทยุภาษาชนเผ่า, ร่วมกับ รพ.สต.บ้านปางเฟือง และ อสม.ชาติพันธุ์ ผลิตโปสเตอร์เรื่องสิทธิบัตรทองภาษาชนเผ่าง่ายๆ ในประเด็นต่างๆ ได้แก่  สิทธิบัตรทอง คืออะไร ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล/การลงทะเบียนสิทธิ ต้องทำอย่างไร/เข้าใช้บริการ ตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อย่างไร /สิทธิประโยชน์การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ใน 5 กลุ่มวัย และสิทธิประโยชน์เรื่องวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล /สิทธิประโยชน์โรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ได้แก่ โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ และการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล และมีการผ่านวิทยุเสียงตามสายของชุมชนในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังเน้นความร่วมมือต่อเนื่องในการผลิตสื่อ และเผยแพร่สื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ เขต 1 เชียงใหม่ ให้ครอบคลุมทุกประเด็นของระบบหลักประกับนสุขภาพแห่งชาติ  และยังได้ร่วมกับ สสส. แผนงานอาหารเพื่อสุขภาวะ(สำนัก 5) / รพ.สต.บ้านปางมะเยา / เทศบาลตำบลปิงโค้ง และ อสม.ชาติพันธุ์ ผลิตสื่อคลิปสั้น/โปสเตอร์ภาษาชนเผ่า รวมถึงพัฒนาศูนย์เรียนรู้สมุนไพรภูมิปัญญาอาหารในงานส่งเสริมสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) อีกด้วย

ด้านนางสาวจินตนา สันถวเมตต์ ผอ.กลุ่ม สปสช.เขต 1 เชียงใหม่  กล่าวว่า การที่สปสช.เขต1เชียงใหม่ทำงานร่วมกับศูนย์ประสานงานและต่อยอดมาถึงศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์ พบว่ามีความเข้มแข็งมากหลายเรื่องด้านสุขภาพ เพราะพื้นที่เชียงใหม่มีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายชนเผ่า ไม่ว่าเป็นลาหู่ ม้ง การเข้าถึงสุขภาพยังมีอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสาร การผลิตสื่อด้านการให้ความรู้สิทธิบัตรทองใช้ภาษาถิ่นชาติพันธุ์ตนเองเช่น ลาหู่ และ ม้งเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆให้พวกเขาเข้าใจง่ายถึงสิทธิในระบบบัตรทอง และยิ่งเป็นภาษาเผ่าเขาเองโดยเราเปิดช่องทางให้มีการเผยแพร่มากขึ้น จากผลการดำเนินงานที่คุ้มครองสิทธิบัตรทองฯเชื่อมรพ.สต.ผ่านมาได้ผลดีเกินคาดหมาย บทบาทรพ.สต.ต้องให้บริการชุมชนอยู่แล้วซึ่งเขาอาจมีหลายหน้าที่ เมื่อศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองฯเข้ามาช่วยอาจทำให้รพ.สต.ดูแลเรื่องของการรักษาได้มากขึ้น

ด้านนางสาวทินกร ขันตรี ผอ.รพ.สต.บ้านปางมะเยา กล่าวว่า ชาวบ้ทนได้ใช้สมุนไพรตลอดเวลาในเรื่องการกิน ซึ่งเป็นการลดช่องว่างในชุมชนพื้นราบกับบนดอยในการส่งเสริมป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังระหว่างรพ.สต.กับชาวบ้านเป็นกลุ่มชาติพันธุ์โดยมีเครือข่าย คือ อสม.เป็นล่าม แปลพวกสมุนไพรท้องถิ่นจากภาษาลาหู่ มม้งเป็นภาษาเมืองให้เราเข้าใจ พวกสมุนไพรสามารถลดโรคแทรกซัอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็น เบาหวาน ความดันฯ ไขมัน เป็นต้น เช่น การลดอาหารพวกทอด มาเป็นต้ม นึ่งสมุนไพร เป็นต้น

จากนั้นลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน แจกแผ่นพับแนะนำแอพลิเคชั่น สปสช.ที่ได้ผลิตสื่อเผยแพร่เป็นคลิปวีดีโอสั้นด้วยภาษาถิ่น(ภาษาชนเผ่า) ให้กับชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ รวมกับเจ้าหน้าที่รพ.สต.บ้านปางเฟือง และลงพื้นที่ไปรพ.สต.บ้านปางมะเยา ที่ได้ร่วมพัฒนาศูนย์เรียนรู้สมุนไพรที่ปลูกรอบๆ รพ.สต.บ้านปางมะเยา ซึ่งเป็นการให้ความรู้ง่ายๆอสม.ลงแนะนำให้ชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ได้เข้าใจและหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อห่างไกลจากโรคเรื้อรัง อีกทั้งยังเป็นสร้างภูมิปัญญาด้านอาหารในงานส่งเสริมสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน ความดัน ไขมัน ฯ ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img