เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อม นพ.สาธิต ทิมขำ ผอ.สปสช.เขต4 สระบุรี ได้ลงพื้นที่และเยี่ยมชม “กระบวนการดำเนินงาน“ศูนย์ห่างการไกล NCDs (โรคไม่ติดต่อในชุมชน)เพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงฯ (NCDs Prevention) : Health Station เฮลสเตชั่น (สถานีสุขภาพ) รพ.สต.วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นพ.ณรงค์ ถวิลวิสาร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวุฒิชัย ด่านชัยวิจิตร นายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา ให้การต้อนรับ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า นโยบายการขับเคลื่อนโครงการคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รพ.สต.วัดพระญาติการามครั้งนี้เกิดจากนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้ชุมชนมีสุขภาพดีห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จึงร่วมกับสาธารณสุขอำเภอ(สสอ. ) พระนครศรีอยุธยา และเทศบาลเมืองอโยธยา ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังส่งเสริมสนับสนุนสร้างความรู้ความเข้าใจให้คนในชุมชนให้รู้จักการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ในกลุ่มเปราะบาง”
ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมที่ทำร่วมกับ อสม. ได้แก่ การแนะนำการนับคาร์บ การวัดความดัน การเจาะวัดน้ำตาลในเลือด และทดสอบการเคลื่อนไหวของร่างกาย ร่วมถึง แนะนำอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้กับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย
สำหรับ “ศูนย์คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รพ.สต.วัดพระญาติการาม” แห่งนี้จะเป็นหนึ่งในต้นแบบให้กับ รพ.สต. ทั่วประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน “30 บาทรักษาทุกที่” ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ลดภาระของระบบสาธารณสุข และสร้างสุขภาวะที่ดีในชุมชน
จาการดำเนินงานในศูนย์ป้องกันโรคไม่ติดต่อในชุมชน NCDs Prevention Center และ Health Station คลินิกหมอครอบครัว รพ.สต.วัดพระญาติการาม ซึ่งถือเป็น รพ.สต.ขนาดใหญ่ รับผิดชอบ ตำบลไผ่ลิง หมู่ 2,5,6 พบว่ามีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังทั้งหมด 2,073 คน แยกเป็นโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 897 เบาหวาน 501 คน โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน จำนวน 675 คน นอกตากนี้พบว่าในปี2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการคัดกรองประชาชนที่มีอายุ35 ปีขึ้นไปในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 923 คน แบ่งเป็นผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังพบว่ามี 493 คน และผู้ที่ยังไม่เสี่ยงการเป็นโรคปกติ 430 คน โดยจะมีการเปิดให้บริการทุกวัน
จากรายงานเจ้าหน้าที่รพ.สต.พบว่าในปี2568 มีผู้มารับบริการที่สถานีสุขภาพไม่น้อยกว่า100 คนต่อวัน ส่วนที่คลินิกโรคเรื้อรังมีผู้มารับบริการไม่น้อยกว่า160 คนต่อวัน และเมื่อเดือนก.ค. 2567 รพ.สต.วัดพระญาติการาม เริ่มดำเนินโครงการจากที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายโครงการ NCDs Remission Clinic ใน phase(เฟส) 1 โรคเบาหวานจำนวน 7 ราย สามารถหยุดยาได้ จำนวน 4 ราย และลดยาได้ จำนวน 1 ราย ซึ่งในปี 2568 มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 9 ราย สามารถหยุดยาได้ จำนวน 1 ราย (ข้อมูลวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568)
กระบวนการคือ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ในคลินิก
– สอนเจ้าหน้าที่ใน รพ.สต. ในการนับคาร์โบไฮเดรต โดยการ ให้ความรู้เชิงปฏิบัติการและใช้สื่อโมเดลอาหารเป็นตัวกำหนด
- ให้คำปรึกษาพยาบาล เจ้าหน้าที่ และร่วมให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง
โดยจะมี อสม.เป็นผู้ค้นหา กลุ่มปกติ/กลุ่มเสี่ยง โดยการคำนวณหาปริมาณคาร์บหรือที่นับคาร์โบไฮเดรต ในพื้นที่ ตำบลไผ่ลิง จำนวน 1,825 คน ทั้งนี้เพื่อใช้ในการพร่องแป้งหรือโลว์คาร์บ แล้วบันทึกผลผ่านแอพลิเคชั่น อสม.ว่าคนไหนกลุ่มเสี่ยงและเป็นโรคแล้วเจ้าสู่กระบวนการ รักษาส่งไป NCDs Remission Clinic ตามประบวนการรักษา และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนกลุ่มปกติ/กลุ่มเสี่ยงยังไม่เป็นโรคส่งไป NCDs Prevention Service ซึ่งจะมีอสม.ในเขตพื้นที่รับผิดชอบคลินิกหมอครอบครัว รพ.สต.วัดพระญาติการาม จำนวน 83 คน
ด้านนายสำเริง งามสมชาติ อายุ 62 ปี ผู้ป่วยเบาหวานมาตั้งแต่ปี2562 ซึ่งต้องกินยาตลอด เล่าว่า ตนเข้าร่วมโครงการฯตั้วแต่23ก.ค.67 จนปัจจุยันไม่ต้องกินยาแล้วแต่ต้องมาติดตามอาการเป็นระยะโดยหมอให้หยุดยามาได้3เดือนแล้ว ที่เข้าโครงการเพราะเห็นคนข้างบ้านเป็นเบาหวานขึ้นตาทำให้มองไม่ชัดการใข้ชีวิตเขาก็ลำบาก จึงเกิดความกลัวและมารับการรักษาตามที่รพ.สต.แนะนำและเข้ารับการอบรม เพราะเบาหวานถ้าไม่รักษาดีอาจจะมีโรคอื่นแทรกซ้อนตามมาก ตนอยากฝากคนที่เป็นเบาหวานว่าสิ่งสำคัญคือการออกกำลังกายและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง ซึ่งถ้ามีจิตแน่วแน่แล้วไม่ยากเลยหากมีความตั้งใจจริงเหมือนกับตน