เซอร์เทนตี้ เดินหน้าสานต่อโครงการอิ่มบุญ สู่ปี10 ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้เข้าถึงการรักษาที่ดี
ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ การดูแลเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ด้วยสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยขาดทุนทรัพย์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล ซึ่งบริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ (Certainty) ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้ดีขึ้น จึงได้สานต่อโครงการอิ่มบุญ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ปีที่ 10
คุณพรภัทร จิรเรืองปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ได้ริเริ่มโครงการอิ่มบุญ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ มาตั้งแต่ปี 2556 ด้วยเล็งเห็นถึงอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2565 ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจากข้อมูลกรมกิจการผู้สูงอายุ มีประชากรสูงอายุกว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 18.3% บริษัทฯ จึงมีความมุ่งมั่นส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยผู้สูงอายุโดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาโครงการนี้ได้สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิรามาธิบดีฯ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกโครงการจะเน้นสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ งานวิจัยเป็นหลัก และช่วงระยะเวลา 2-3 ปีหลัง แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงแต่เซอร์เทนตี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าหลายครอบครัวที่มีผู้สูงอายุจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิค่ารักษาพยาบาลได้ ทำให้ผู้สูงอายุขาดโอกาสในการรักษา การดำเนินโครงการฯ นอกจากสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว ยังมีเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุยากไร้ผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ทั้งนี้ ในแต่ละปีโครงการอิ่มบุญกับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ จะมีรูปแบบการดำเนินกิจกรรมที่ต่างกัน แต่เป้าหมายหลักคือ การมีส่วนร่วม และให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม โดยในปี 2565 ใช้ชื่อโครงการว่า “อิ่มบุญ กับเซอร์เทนตี้ ปี 10 แก้ปีซึม เปิดปีทรัพย์ รับบุญใหญ่” ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการค้าที่ดีอย่าง Shopee เปิดช่องทางออนไลน์ ShopeeCertainty E-Donation Shop จัดเซ็ตผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้เชิญชวนให้ลูกค้าได้เลือกบริจาคง่ายๆ เพียงคลิกผ่านออนไลน์ พร้อมส่งสินค้าตรงให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ และทุกการสั่งซื้อลูกค้ายังมีส่วนร่วมในการบริจาคเงินสมทบทุนกับทางเซอร์เทนตี้ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์อีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า สามารถสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ จำนวน 4 เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องคุมการให้สารทางหลอดเลือด เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง เครื่องวัดความดันโลหิตและความอิ่มตัวของออกซิเจน เตียงไฟฟ้าผู้ป่วยแบบปรับระดับ พร้อมผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ มากกว่า 1 ล้านบาทให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ นำไปใช้ในกิจกรรมของมูลนิธิฯได้เป็นผลสำเร็จ
การดำเนินโครงการอิ่มบุญ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ตลอด 10 ปี บริษัทฯ ได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมผลิตภัณฑ์ให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ มากกว่า 13ล้านบาท โดยเงินบริจาคเหล่านี้ได้มีส่วนช่วยสมทบทุนปรับปรุงพัฒนาอาคารและจัดหาเครื่องมือแพทย์สำหรับผู้ป่วยยากไร้ รวมถึงผู้ป่วยที่สูงอายุ และจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์หลากหลาย อาทิเช่น จัดซื้อเครื่องไตเทียมให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี สมทบทุนซื้อเครื่องมือผ่าตัดข้อเข่าให้มูลนิธิรามาธิบดีฯ จัดซื้อเครื่องตรวจหลอดเลือดสมองด้วยคลื่นความถี่สูง จัดซื้อเครื่องตรวจหัวใจและอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง มอบให้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ สมทบทุนโครงการเพื่อผู้ป่วยากไร้ โดยมุ่งเม้นไปที่ผู้ป่วยสูงอายุ
เพื่อยกระดับการรักษาพยาบาลและคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ป่วยสูงอายุ รวมถึงในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ได้จัดหาเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง จำนวน 5 เครื่อง มอบให้กับทางมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงผู้สูงอายุในโรงพยาบาล เป็นต้น
“การที่เซอร์เทนตี้ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยยากไร้ เนื่องจากเป็นโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ทั้งนี้การดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องของสุขภาพ ควรให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลสุขอนามัยที่ถูกวิธี จะช่วยลดปัญหาอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการติดเชี้อได้ โดยเซอร์เทนตี้ได้มีการส่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำการใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ถูกวิธีให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยอีกด้วย และจากความสำเร็จของโครงการอิ่มบุญ อิ่มใจกับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงมีปณิธานแน่วแน่ที่จะดำเนินกิจกรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่ง” น.ส.พรภัทร กล่าวในที่สุด
ด้านคุณพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า ในแต่ละปีมูลนิธิรามา
ธิบดีฯ มีการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้หลายพันราย โดยใช้งบประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยยากไร้มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีทำให้หลายครอบครัวประสบปัญหาเรื่องของรายได้ การทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้นั้นได้รวมไปถึงผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ที่ยาบางประเภทไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจต่างๆ โรคธาลัสซิเมีย การปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งโรคพวกนี้หากไม่รักษาจะเสียชีวิตและค่ารักษาพยาบาลในแต่ละรายมากกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยยากไร้อีกกลุ่มที่จำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด 20 ชั่วโมง หากแพทย์ประเมินว่าสามารถใช้หุ่นยนต์ผ่าตัด หรือใช้รังสีร่วมในการรักษา เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด มูลนิธิรามาธิบดีฯ ก็จะเข้าไปสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยยากไร้กลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
การที่บริษัทดีเอสจี เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิรามาธิบดีฯ แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการให้ของสังคมไทย เป็นตัวอย่างองค์กรที่ดีให้คนในสังคมและองค์กรอื่นๆ หากไม่มีบริษัทแบบนี้ซึ่งรู้คุณค่าของการให้ ที่เริ่มตั้งแต่การผลิตสินค้าในการช่วยผู้สูงอายุ ที่หลายคนมองข้ามหรือคิดไม่ถึง ให้ได้ใช้สินค้าที่มีประโยชน์มอบความสุขกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น และยังแบ่งรายได้มายังผู้ป่วย องค์กรการกุศลเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนและเป็นแบบอย่างของการให้อย่างแท้จริง