หมอจเด็จ เลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่เยี่ยมชมการขับเคลื่อนนโยบายยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่2 จ.สิงห์บุรี พร้อมนำทีม สปสช. เชิงรุกบริการรับสมัครขึ้นทะเบียนหน่วยบริการนวตกรรมสหวิชาชีพ 7 สาขา และเยี่ยมชมความพร้อมหน่วยบริการคลินิกแพทย์แผนไทย เมอรี่เพียวหมอสมุนไพรสหคลินิก ร้านยาเจ.พี. ฟาร์มาซี และคลินิกทันตกรรม บ้านรักยิ้ม
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 4 สระบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมการขับเคลื่อนนโยบายยกระดับบัตร 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่2 หรือ เฟส 2 โดยนำร่องที่ จ.สิงห์บุรี และชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค โดยมี นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี นายแพทย์เอกโชติ พีรธรรมานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี และคณะให้การต้อนรับ
สำหรับการเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนนโยบายยกระดับบัตร 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟส 2 จ.สิงห์บุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรีได้ขับเคลื่อนร่วมกับ สปสช.เขต 4 สระบุรี ซึ่งมีหน่วยบริการ นวตกรรมเข้าร่วมในจังหวัดสิงห์บุรีแล้ว 12 แห่ง แบ่งเป็น ร้านยา 10 แห่ง คลินิกทันตกรรม 1 แห่ง และ คลินิกแพทย์แผนไทย 1 แห่ง โดยหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านต่างๆในพื้นที่ สปสช.เขต 4 สระบุรี มีจำนวน 454 แห่ง แบ่งเป็น คลินิก Lab 5 แห่ง คลินิกเวชกรรม 30 แห่ง คลินิกทันตกรรม 5 แห่ง คลินิกกายภาพบำบัด 11 แห่ง คลินิกแพทย์แผนไทย 7 แห่ง คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 17 แห่ง และร้านขายยา 379 แห่ง ซึ่งมีความพร้อมมากในการให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการ
นอกจากนี้ คณะฯ นพ.จเด็จ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเตรียมความพร้อมของ คลินิกแพทย์แผนไทย เมอรี่เพียวหมอสมุนไพรสหคลินิก (การแพทย์แผนไทยประยุกต์) อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยมี พท.ป.จุรีรัตน์ อัมพร และ พท.จิรัฐพัสก์ สีรัมย์ แพทย์แผนไทย 2 คน จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มี.ค.2567 บริการ นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหญิงหลังคลอด และฟื้นฟูสมรรถภาพโรคอัมพฤกษ์/อัมพาต หรือผู้ป่วยพาร์กินสัน พร้อมทั้งระบบติดตามอาการผู้ป่วยหลังรับบริการด้วยแอพลิเคชั่นไลน์
พท.ป.จุรีรัตน์ กล่าวว่า สำหรับบริการแพทย์แผนไทยที่นี่มีความพร้อมโดยจัดให้มีห้องแยกเป็นสัดส่วน สะดวกและประชาชนเข้าถึงง่าย เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 17.00-20.00น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ 9.00-17.00 น. ผู้มีสิทธิบัตร 30 บาทสามารถนำบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ที่นี่ตามนโยบายยกระดับบัตรทองรักษาด้วยบัตรประชาชนใบเดียวทุกที่ เพื่อลดความแออัดใน รพ.
พท.ป.จุรีรัตน์ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมครั้งนี้คิดว่า ตนเป็นคนรุ่นใหม่ อยากรู้ อยากลอง ก็จะลองดู การเข้าร่วมกับ สปสช.จะเข้าก่อนหรือหลังก็ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้ามันไม่ดีเราก็ออก เพราะตนถือว่าอะไรที่ทำให้ประชาชน ชาวบ้านที่ยังเข้าไม่ถึงบริการการแพทย์แผนไทย ที่เป็นการแพทย์พื้นบ้านที่รวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเฉพาะชนบทเขาจะคุ้นเคยกับการแพทย์พื้นบ้านก็สามารถมาใช้บริการได้เพราะถือเป็นอีกทางเลือกให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการมากขึ้น ซึ่งตนก็มีการรองรับกับคนไข้มากขึ้นไว้แล้ว คิดว่าไม่มีปัญหา
ส่วนที่ร้านยา เจ.พี.ฟาร์มาซี ซึ่งมี ภก.นิธิภัค ฉัตรทอง เป็นเจ้าของและเป็นเภสัชกรประจำ ร้านยา ตั้งอยู่ ตำบลโพสังโฆ อำเภอค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า ร้านยาเจ.พี.ฟาร์มาซี มีความพร้อมในการให้บริการประชาชนตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยได้เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการทางเภสัขกรรมด้านเภสัชกรรมปฐมภูมิ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น.-19.00 น. มีประชาชนเข้ารับบริการเฉลี่ย 60 คนต่อวัน โดยมีประชาชนมารับบริการสูงที่สุดในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 ถึง 7,789 คน มีจำนวน 9,738 ครั้ง (ข้อมูล ณ 29 มกราคม 2567)
นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีระบบควบคุมอุณหภูมิในร้านและตู้เก็บยา เพื่อควบคุมความชื้น ควบคุมคุณภาพยา ให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านเภสัชกรรม เป็นการการันตีเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ยาที่เราจ่ายให้มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ยาบางกลุ่มจะต้องเก็บในที่เย็นควบคุมอุณหภูมิช่วง 8 ถึง 15 องศาเซลเซียส โดยมีสัญญาณแจ้งเตือนแบบ real time มีการบันทึกทุกๆ 5 นาที มีจอแสดงผลประชาชนสามารถดูได้ นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนเป็นเสียงพูดรายงานทุกต้นชั่วโมงด้วย
ขณะที่ คณะสปสช.ลงเยี่ยมเพื่อดูความพร้อมของร้านยาที่ร่วมโครงการฯ ลุงหว่าว แก้วพานัง อายุ 76 ปี เกษตรกรทำนา มาใช้บริการเนื่องจากมีอารการปวดที่ต้นคอ เล่าว่า ตนมาใช้สิทธิบัตรทองที่ร้านยาแห่งนี้ครั้งแรก เพราะคนแถวบ้านบอกมาว่าเจ็บป่วยเล็กน้อยมาเอายาที่ร้านยาได้ตนจึงมา ดีใจ ที่สปสช.มีโครงการแบบนี้ช่วยคนยากไร้ได้มาก สะดวก เร็ว ไม่ต้องเสียเวลาไปรพ. เพียงยื่นบัตรประชาชนให้ร้านตรวจสิทธิ์และถามอาการก็ได้ยามากินและไม่ต้องเสียเงินด้วย
ในช่วงบ่าย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รอวเลขาธิการสปสช. และ พร้อม ทีมทพญ.แพร จิตตินันทน์ ผู้แทนทันตแพทยสภา ลงเยี่ยม คลินิกทันตกรรมบ้านรักยิ้ม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยมี ทพญ.ภัทมน คงสิทธิ์ และทีมทันตแพทย์ ให้บริการ ซึ่งเตรียมเข้าโครงการฯในวันที่ 1 มี.ค.นี้
ทพญ.ภัทมน กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีการติดป้ายประกาศเชิญชวนมาใช้บริการโดย ให้บริการสิทธิบัตรทอง /30 บาท /ผู้สูงอายุ ดูแลทันตกรรมรักษาได้แก่ ขุด อุด ถอน บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกัน ได้แก่ sealant และเคลือบฟลูออไรด์ เปิดวันจันทร์-ศุกร์ รองรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ได้วันละ 20 คน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถให้บริการได้ 30 คนต่อวัน ซึ่งเริ่มมีคนไข้นัดมาใช้บริการแล้ว สำหรับเหตุที่การเข้าร่วมครั้งนี้ ส่วนตัวเคยอยู่ รพ.รัฐมาก่อนและเห็นคนไข้มาใช้บริการหลากหลายและต้องรอคิวเพื่อทำฟันนานมาก คนไข้ก็เยอะมาก และเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ ได้แบ่งเบาภาระ รพ.ด้วย
.ทั้งนี้ สปสช. ร่วมกับสสจ.สิงห์บุรี และสภาวิชาชีพ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชน และอำนวยความสะดวกการสมัครเข้าร่วมจัดบริการ โดยมี นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ให้การต้อนรับและร่วมชี้แจงแนวทางดังกล่าวฯ