รองเลขาธิการ สปสช. ลงเยี่ยมเสริมพลังกองทุนฟื้นฟูฯ จังหวัดระนอง ดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ให้เข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยการสนับสนุนบริการฟื้นสมรรถภาพด้านการแพทย์ในชุมชนและอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ทพ.อรรถรพ ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย คณะสปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี พร้อมคณะลงพื้นที่รับฟังความเห็นการขับเคลื่อนงานและการบริหารกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนอง การดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง พร้อมลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลละอุ่น และแลกเปลี่ยนความเห็น รวมถึงรับฟังปัญหาการดำเนินงานกองทุน ฯ ในพื้นที่โดยมีนายสีหราช สรรพกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง พร้อมด้วยนายสุวิทย์ หลักชัย ปลัดอบจ.ระนอง และทีมงานร่วมแลกเปลี่ยนและสรุปภาพรวมกองทุนฟื้นฟูฯ
ทพ.อรรถพร สปสช.กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัดเป็นหนึ่งในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ สปสช. ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ โดยร่วมสมทบงบประมาณค่าบริการสาธารณสุข จำนวน 8 บาท ต่อหัวประชากร เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ และการให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพในจังหวัดอย่างครบ มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมของกองทุนฟื้นฟูฯปี 2568 มีกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 71 จังหวัด หรือคิดเป็นร้อยละ 92.1 (อบจ.ทั้งหมด 76 จังหวัด) มีการสนับสนุนโครงการสำหรับศูนย์ยืม-คืน ซ่อม อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการจัดสภาพแวดล้อมหรือบริการขั้นพื้นฐานเพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับการ ดูแลอย่างต่อเนื่อง
“กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ระนอง ถือว่าเป็น กองทุนที่บริหารจัดการโดย อบจ. ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกองทุนที่มุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด ซึ่งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัดเป็นกลไกด้านสุขภาพที่สำคัญ ช่วยดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้รวมทั้งมีการบริหารจัดการที่ดี ” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
นายสีหราช สรรพกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนอง มีงบประมาณ จำนวน5,395,050.84 บาทโดยเป็นงบจัดสรรจาก สปสช.1,150,000 บาท อบจ.สมทบ 1,150,000 บาท และยอดยกมาปี 2567 จำนวน 3,095,050.84 บาท) ซึ่งมีแผนงานรองรับ 3 แผนงาน ได้แก่ 1) ให้บริการยืมอุปกรณ์การฟื้นฟูสมรรถภาพในชุมชน การปรับสภาพบ้าน จำนวน 3,900,000 บาท 2) สนับสนุนการจัดบริการและอุปกรณ์ช่วยความพิการ 1,150,050.84 บาท และ 3) งบบริหารจัดการ 345,000 บาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดระนองในรอบปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เพียงร้อยละ 13.59 ส่วนใหญ่เป็นแผนงานด้านการบริหารจัดการและปรับสภาพบ้าน จำนวน 6ราย รวมงบประมาณ 234,889.00 บาท ครอบคลุมพื้นที่ 3 อปท.
อย่างไรก็ตามในปี 2568 ได้ขยายการดำเนินงานปรับสภาพบ้านเพิ่มขึ้นในพื้นที่ 3 อปท.จำนวน 27 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 948,306 บาท คาดว่าจะสามารถขยายเพิ่มเติมได้อีกภายใต้ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย อปท.ระหว่าง อบต/เทศบาลในพื้นที่ กับ อบจ.ระนอง โดยทางกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนองจะจัดเวทีชี้แจงการดำเนินงานกองทุนกับ อปท.และหน่วยบริการทุกแห่งในจังหวัดเพื่อบูรณาการงานฟื้นฟูสุขภาพของคนระนองแบบครบวงจร โดยให้ อบต./เทศบาล ที่ผ่านการดำเนินงานร่วมงานกับกองทุนได้แลกเปลี่ยนแนวทางการใช้งบประมาณของกองทุนจัดบริการฟื้นฟูให้คนในพื้นที่ ภายใต้แนวคิด “ท้องถิ่นปรองดอง คนระนองมีที่พึ่ง”
“ในปี 2568 กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนองยังได้ขยายแผนงานเพิ่มเติม คือ แผนงานจัดตั้งศูนย์สาธิตยืมอุปกรณ์และเครื่องช่วยเหลือความพิการ จำนวน 1 แห่ง จำนวนงบประมาณ 102,000 บาท ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลละอุ่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชน และจะขยายให้ครอบคลุมให้ครบทั้ง 5 โรงพยาบาล เพื่อให้บริการยืมอุปกรณ์และเครื่องช่วยเหลือความพิการให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง ในปี 2568 กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนองจะสามารภเบิกจ่ายงบประมาณและสร้างการเข้าถึงบริการฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองกล่าวยืนยัน
สำหรับการปรับสภาพบ้าน 2 หลังที่จะลงเยี่ยมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น เป็นการลงพื้นที่เยี่ยมเสริมพลังการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดระนอง ในพื้นที่ อบต.บางแก้ว โดยมี นายเจษฎา ชูชาติ นายก อบต. บางแก้ว พร้อมคณะลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ได้รับงบจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดระนองผ่านกลไกการขับเคลื่อนงานของ อปท.และประชาคมในพื้นที่ ซึ่งจะนำไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาแผนงาน ให้มีศักยภาพการดำเนินงานที่เข็มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งดูจากผลการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดระนองแผนงานการปรับสภาพบ้านมีพัฒนาการที่ดี เพิ่มการปรับปรุงบ้านผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบก้าวกระโดดจาก 6 รายในปี 2567 เพิ่มเป็น 27 ราย ในไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้น ในการบูรณาการทำงานร่วมกันในพื้นที่ อปท.อื่นๆต่อไป
ภายหลังสรุปภาพรวม รองเลขาธิการสปสช.พร้อมคณะฯ ลงเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วย palliative care บ้านเลขที่ 55/23 หมู่ 3 ตำบลบางแก้ว อำเภอละอุ่น ป่วยโรคไต เบาหวาน ความดัน และมีฐานะยากจน ปรับปรุงห้องน้ำ พื้น หลังคา ประตู หน้าต่าง ระบบไฟฟ้าให้แสงสว่าง และระเบียงบ้าน รวมเป็นเงิน 40,000 บาท และเยี่ยมบ้านบ้านเลขที่ 59 หมู่ 3ตำบลบางแก้ว อำเภอละอุ่น บ้านผู้พิการ ขาหลีบ และมีฐานะยากจน ปรับปรุงพื้นบ้าน ฝาบ้าน ห้องน้ำ หลังคา บันได ประตู หน้าต่างและระบบไฟฟ้าให้แสงสว่าง รวมงบ 40,000 บาท.
ช่วงบ่ายคณะลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน นางปราณี จันทร์เปล่ง อายุ63ปี ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์แขน-ขาขวาไม่สามารถขยับได้ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานกว่า 8 ปี โดยมีนายบรรเจิด เพชรวัลย์ ลูกชายเป็นผู้ดูแล
นายบรรเจิดกล่าวว่า หลังจากแม่ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือช่วยเหลือตัวเองได้ โดยหมอวินิจฉัยว่าเป็นผู้พิการ ตนได้ลงทะเบียนกับทางจังหวัดระนองว่าแม่เป็นผู้พิการ
อย่างไรก็ตาม อบจ.ระนองได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจที่บ้านพบว่าบ้านมีสภาพผุพังประกอบกับแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องนั่งรถวิวแชร์ตลอดการเข้าห้องน้ำก็ลำบาก จึงได้ใช้งบกองทุนฟื้นฟูจังหวัดระนอง แผนงานการปรับสภาพบ้านมีพัฒนาการที่ดี เพิ่มการปรับปรุงบ้านและห้องจนตนและแม่มีความสะดวกสบายมากขึ้น
“ขอขอบคุณ สปสช.และอบจ.ระนองที่เข้ามาช่วยตนกับแม่ให้มีสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้น” นายบรรเจิดกล่าว