สปสช.เยี่ยมคลิกนิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตอบโจทย์ประชาชนที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลชุมชน
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ภก.คณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนการเข้าถึงบริการปฐมภูมิ และการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคสปสช. พร้อมผู้บริหารสปสช.เขต3 นครสวรรค์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน“หน่วยบริการนวัตกรรม ตามนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยมี ดร.อัจฉรพรรณ ค้ายาดี ผู้บริหารคลิกนิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี สรุปภาพรวมของการดำเนินการในคลินิก ฯ
ดร.อัจฉรพรรณ ค้ายาดี เจ้าของคลิกนิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้เปิดคลินิกฯ มาประมาณ20 ปีแล้ว และเข้าร่วมโครงการฯ กับสปสช.เมื่อปี 2566 ระยะเวลา 2 ปี แล้ว
และเมื่อมีนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เข้าร่วมโครงการกับสปสช.ต่อเนื่อง
“ เดิมคนไข้ที่มารับบริการ จะเสียเงินเอง เมื่อเข้าร่วมโครงการฯ มีคนไข้มาใช้บริการมากขึ้น และต่างดีใจ ที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล เช่น มีไข้ ปวดหัว ปวดท้อง ความดันโลหิตสูง และยาคุมกำเนิด รวมทั้งให้บริการเชิงรุก ลงไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ ปัจจุบันมีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการประมาณ 10 คนต่อวัน “ เจ้าของคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์หนองจอกกล่าว
นายสมบูรณ์ พุ่มจำปา ชาว ต.กะบกเตี้ย อ.เนินขาม จ.ชัยนาท ซึ่งป่วยติดเตียงมาเกือบ 2 ปี จากโรคประจำตัวที่รุมเร้า ทั้งรูมาตอยด์ ความดันโลหิตสูง ต่อลูกหมากโต และกระดูกทับเส้น จนต้องเข้ารับการผ่าตัด เริ่มมีอาการดีขึ้น หลังเจ้าหน้าที่จากคลิกนิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ลงมาเยี่ยมบ้าน ตรวจรักษาอาการและช่วยทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เขาบอกว่าดีใจมากที่มีโครงการ30รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ช่วยให้เข้าถึงการรักษาได้ฟรี สะดวก และไม่ต้องเสียเงินเช่ารถเดินทางไกลไปถึงโรงพยาบาลชัยนาท ทุกครั้งที่มีอาการ ปวด บวม หรือปัสสาวะขุ่น แค่โทรหาคลินิกแห่งนี้ คุณหมอก็จะเข้ามาช่วยดูแลให้ทันที
ภก.คณิตศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ลงพื้นที่คลินิกพยาบาลฯ ซึ่งเป็น 1ใน หน่วยนวัตกรรม 7 สภาวิชาชีพ ตามนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ระยะที่ 3 ในจังหวัดอุทัยธานี พบว่า ความประทับใจหน่วยบริการภาคเอกชนในที่เข้ามาเป็นหน่วยบริการเพื่อยกระดับ 30 บาทฯ แม้เป็นจังหวัดเล็กๆ มีประชากรทั้งหมดประมาณ 285,124 คน เป็นสิทธิ์บัตรทอง 236,702 คน แต่ก็มีหน่วยบริการที่สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นและมีความสะดวกมากขึ้น
ภก.คณิตศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับ จ.อุทัยธานี เริ่มดำเนินการ 1 พฤษภาคม 2567 มีข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 1 – 23พฤษภาคม 2567 มีหน่วยบริการประกอบด้วย โรงพยาบาล รพ.สต. และหน่วยนวัตกรรม เข้าร่วมโครงการยกระดับ 30 บาทฯ จำนวน 42 แห่ง ผู้รับบริการทั้งสิ้น 12,637 คน มีจำนวน 16,315 ครั้ง โดยสปสช.จ่ายชดเชยเป็นเงินทั้งสิ้น 5,108,132.00 บาท
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่สปสช.เขต 3 มี 5 จังหวัด จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.ชัยนาทและจ.อุทัยธานี ซึ่งดำเนินโครงการบัตรประชาชนใบเดียวครบทั้ง 5 จังหวัดตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา พบว่า ทุกที่มีหน่วยนวัตกรรม มีความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือขอให้หน่วยบริการช่วยกันประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้กับประชาชนในพื้นที่ทราบมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด