สปสช. หนุนเสริมขับเคลื่อนกองทุนฯ กปท.กระทุ่มล้ม รุกเคาะประตูบ้าน คัดกรองก่อนป่วยทุกวัย เพื่อลดภาวะผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ด้วยการสื่อสารอย่างง่ายของผู้ดูแลในชุมชน
“ดร.ภญ.ยุพดี”รองเลขาธิการ สปสช. เยี่ยมชมกิจกรรมเชิงรุกเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม และรพ.สต.กระทุ่มล้ม คัดกรอง ค้นหา ป้องกันและดูแลสุขภาพทุกช่วงวัย โดยเน้นตั้งแต่อายุ 50 ปี เคาะประตูบ้านทุกหลังคาเรือน โดยจิตอาสา อสม. CG คนในชุมชนช่วยสื่อสาร ส่งสัญญาณเตือนหรือสื่อผ่านสายด่วน กลุ่มไลน์แจ้งโดยตรงมาที่ กปท.
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ดร.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นพ.คณิตสรณ์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการกลุ่ม สปสช.เขต5 ราชบุรี ลงพื้นที่เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม เยี่ยมชมโครงการ“คัดกรองและดูแลเตรียมการวัย 50ปีขึ้นไป ฟื้นฟูผู้สูงอายุด้วยการสื่อสารอย่างง่ายของผู้ดูแลในชุมชน” โดยมี นายสุรินทร์ แคบำรุง นายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มล้ม นายแสงเฉลียว สีผึ้ง รองนายกเทศมนตรี เมืองกระทุ่มล้ม นพ.ปิติ ชาคริยานุโยค แพทย์ชำนาญการเวชศาสตร์ครอบครับ รพ.สามพราน ให้การต้อนรับและสรุปภาพรวมพร้อมให้ นวัตกรรมต้นแบบ “สถานีเช็คสุขภาพด้วยตเอง”ต่อยอดไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นต่อไปได้
นายสุรินทร์ แคบำรุง นายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มล้ม กล่าวว่า “เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม” เข้าร่วมบริหารจัดการกองทุนฯ ในปีงบประมาณ 2551 โดยมีวิสัยทัศน์ “สะดวก สะอาด ปลอดภัย พร้อมก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลง” มีประชากรทั้งหมด จำนวน 29,374 คน มีกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นการเฉพาะ จำนวน 5,011 คน เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม จึงใช้กลไกการมีส่วนร่วมจากกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ในการจัดบริการด้านสร้างเสริมสุขภาพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เน้นงานสุขภาพในชุมชน สนับสนุนทุกช่วงวัย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ที่ได้มีการจัดทำแผนงานร่วมกัน รองรับผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น และจัดให้มี“สถานีสุขภาพในพื้นที่ ”
เพื่อคัดกรองโรค ตั้งแต่วัยอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งก่อนลงพื้นที่ จะมีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย โดยมีจิตอาสา อสม.และชาวบ้านร่วมกันดำเนินการ จัดให้มีการคัดกรองสุขภาพ มีการเดินเคาะประตูบ้าน แนะนำเชิญชวน แจกชุดตรวจ มะเร็งลำไส้ ในอายุ 50 ปีขึ้นไป แนะนำวิธีการเก็บ และนำส่ง,แนะนะการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง, การคัดกรองสายตาในผู้สูงวัยที่บ้าน เป็นต้น
“ ปี 2567 ได้จัดทำโครงการเชิงรุก สนับสนุนโครงการต่างๆ มีโครงการที่อนุมัติและสนับสนุนงบประมาณในทุกกลุ่มประชาชน จำนวน 34 โครงการ คิดเป็นเงิน 2,934,425 บาท จากงบที่กองทุนมีทั้งหมดประมาณ 3 ล้านบาท โดยสนับสนุนงบประมาณในกลุ่มผู้สูงอายุ และบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง/บุคคลที่มีภาวะปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ คิดเป็นเงิน 1,600,970 บาท หรือร้อยละ 55 ของงบประมาณสนับสนุนในทุกกลุ่มประชาชนทั้งหมด โดยใช้เงิน จัดซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ตามแคร์แพลน 96 ราย ใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อหวังให้ทุกช่วงวัยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า พร้อมก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงตามวิสัยทัศน์ของเทศบาลที่เราร่วมทำจริง ผ่านกองทุน กปท.เป็นคำตอบที่ดีของเมืองกระทุ่มล้ม”นายกเทศมนตรีกล่าว
นอกจากนี้ คณะรองเลขาธิการ สปสช.ลงเยี่ยมชมชุมชนหมู่บ้านเอื้ออาทรวัดนครชื่นชม หมู่ 9 ต.กระทุ่มล้ม หนึ่งในชุมชนที่ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม ได้จัดกิจกรรมดำเนินการคัดกรอง มะเร็งลำไส้,ชวนให้ตรวจมะเร็งปากมดลูก สอนวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ด้วยการเคาะประตูบ้าน และให้บริการในจุด “สถานีตรวจสุขภาพในชุมชนเอื้ออาทรวัดนครชื่นชุ่ม”
จากนั้นเยี่ยม ชายไทยอายุ 46 ปี ป่วยจากเส้นเลือดสมองตีบ อ่อนแรงข้างขวา ติดเตียง ปี 2565 เข้าโครงการ LTC ปี 2566 ได้จัดระบบรับส่งผู้ป่วยให้เข้ามาทำกายภาพบำบัด อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และ CG ลงพื้นที่กระตุ้นกล้ามเนื้อ จนเริ่มเดินเกาะราวเดินได้ ทานข้าวเองได้ ได้รับการดูแลจาก รพ.สต.กระทุ่มล้ม และการสนับสนุนกายอุปกรณ์ รถเข็น ไม้เท้า 3 ขาจากรพ.สต.กระทุ่มล้ม
ทั้งนี้ การการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองทุ่มล้มนี้ เป็นการไปเยี่ยมให้กำลังใจในการดำเนินงานต้นแบบของการดูแลของทุกช่วงวัย คัดกรองโรคในแต่ละช่วงวัยเช่น มีการกระตุ้นเตือนในกลุ่มผู้หญิงให้ตรวจเต้านม,มะเร็งปากมดลูก ตั้งแต่อายุ 35 ปี คัดกรองสายตาอย่างง่ายที่บ้าน เชิญชวน แจกชุดตรวจ เก็บอุจจาระให้แก่คนไทยอายุ 50 ปีทุกบ้าน เคาะบ้านแบบปูพรม แบ่งพื้นที่สื่อสารกันในการทำงาน โดยมีความร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ ซึ่งมีสหวิชาชีพในการประเมิน ใช้กลไกในชุมชน ชาวบ้าน จิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน และจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสม โดย สปสช.เขต 5 ราชบุรี จะขยายผลให้เกิดการดำเนินงานตามรูปแบบของ กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองทุ่มล้ม ยังพื้นที่ต่างๆในเขตทั้ง 8 จังหวัดต่อไป.