คณะที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข และ รองเลขา สปสช. ตรวจเยี่ยมโครงการ“30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว“ ที่จ.แพร่ พบผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองในคลินิกเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการเฟสแรก ให้การตอบรับดีมาก
ปชช.ตอบรับดีเยี่ยมมาก โครงการ“30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว“ ที่จ.แพร่
เมื่อวันนี้(22 กพ.2567) คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข และทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสปสช. พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการในเฟสแรก พร้อมลงเยี่ยมชมและรับฟัง หน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯ 3 แห่ง ได้แก่ ร้านยารักข์ยามินิมาร์ท ,คลินิกเทคนิคการแพทย์ น้ำทองแล็บ เซนเตอร์ และ คลินิกทันตกรรม ทันตแพทย์อดิเรก
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่าทั้ง 3 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ มาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567ที่ผ่านมา มีความพร้อมในการให้บริการได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ มีเพียงประเด็นปลีกย่อยเล็กน้อยที่ต้องปรับปรุง ในเรื่องระบบธุรกรรมระหว่างคลินิกกับ สปสช. อาทิ การบันทึกข้อมูล และการอ่านรายงานการจ่ายเงิน ที่ สปสช.จ่ายเงินให้ทุกๆ 3 วัน แต่ทางคลินิกไม่รู้จะอ่านรายงานยังไง ที่หน้าไหน ซึ่งในส่วนนี้ สปสช.ได้รับเรื่อง และจะจัดประชุมสร้างความเข้าใจให้อีกรอบ
รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในหน่วยนวัตกรรมเอกชนทั้ง 3 แห่ง มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลการสำรวจ พบว่า มีความพึงพอใจ ประชาชนให้การตอบรับดีมาก เนื่องจากสะดวก ไม่ต้องหยุดงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่วนการบริหารจัดการอาจมีขลุกขลักบ้างในช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ทั้ง3แห่ง ก็ให้บริการได้อย่างราบรื่น โดยที่นี่ทั้ง สสจ. แพร่ และ ผอ.โรงพยาบาลแพร่ ได้ให้การสนับสนุนขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างเต็มที่
ด้านนายแพทย์วิชิน โชติปฎิเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการนำร่อง 7 มกราคม 2567 เป็นต้นมา มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก และช่วยลดความแออัดในรพ. แพร่ได้มาก
“ ในระยะแรก ประชาชนยังไม่ทราบมีโครงการ ก็ยังมาใช้บริการในรพ. แพร่ แต่ระยะหลังได้ข้อมูล ประชาชนมาใช้บริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ น้ำทองแล็บ เซนเตอร์ โดยเฉลี่ย 20 คนต่อวัน ซึ่งช่วยลดความแออัดในรพ.ได้มากและในอนาคตคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการในคลินิคแล็ปน้ำทอง เพิ่มขึ้น เะราะในแต่ละวัน รพ.ต้องรับผู้ป่วยกลุ่มนี้วันละ700 คน “ ผอ.รพ.กล่าว
ด้านพระอธิการกฤษวชิรญาโณ วัดหัวเมือง อ.สอง จ.แพร่ กล่าวว่า ดีใจที่ได้ใช้บริการของคลินิกทันตกรรม ทันตแพทย์อดิเรก ไม่ต้องเสียเงินเลย เพราะรักษาโรคทางช่องปาก ไม่นึกว่า จะมีโครงการดีๆแบบนี้ สะดวก รวดเร็ว บริการดี ไม่ต้องรอคิวไปรพ.ใหญ่
“เป็นโครงการที่ดีมากๆ และอยากให้ครอบคลุมทุกอย่างทางช่องปาก แต่ยังมีข้อเสียเล็กน้อย ประชาชนยังไม่ทราบว่ามีโครงการดีๆแบบนี้ อาตมาก็จะไปประชาสัมพันธ์ ให้พระลูกวัดรู้จะได้มาใช้บริการ ประชาชนหรือพระไม่กล้ามาใช้ เพราะรักษาโรคทางช่องปากจะมีราคาแพง “พระอธิการกฤษวชิรญาโณ กล่าว.
ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษา รมว.สธ. ที่ลงพื้นที่ มีนพ.ณรงค์ สายวงศ์ คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข นางสาวณัฐณิชา บุรณศิริ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดร.ศศดิศ ชูชนม์ คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข และ นางชิดสุภางค์ กิตยาธิคุณ คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข.