28.6 C
Thailand
อังคาร, พฤษภาคม 20, 2025
spot_img

SINO เปิดกลยุทธ์ปี 68 เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจ Air Freight เพิ่มศักยภาพผู้นำโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโตกว่า 16%

บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SINOกางแผนธุรกิจปี 68 รุกใหญ่เพิ่มศักยภาพผู้นำให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ 4,300 ล้านบาท เติบโตกว่า16% เตรียมรุกขยายธุรกิจบริการ Air Freight ส่วนธุรกิจบริการ Sea Freight เตรียมเปิดบริการเส้นทางเวียดนามสหรัฐฯ และจากเวียดนามไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้าอยู่ระหว่างศึกษาแผนขยายการลงทุนรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ชูฐานะทางการเงินแข็งแกร่งพร้อมขยายการลงทุนตามแผนงาน

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผถึงแผนการดำเนินงานปี 2568 จะมุ่งขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเป็นผู้นำให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร จากปัจจุบันแบ่งพอร์ตธุรกิจหลักเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลัก โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทยสหรัฐฯ ที่มีปริมาณสินค้าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ในประเทศไทย 2) บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) 3) บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ และ 4) บริการให้เช่าคลังสินค้า โดย ณ สิ้นปี 2567 มีสัดส่วนรายได้มาจาก Sea Freight 96% Air Freight 1% และ Logistics Support 3% ของรายได้รวม

ณะที่ปี 2568 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวม4,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 16% จากปีที่ผ่านมา และมีปริมาณการขนส่งสินค้ารวม 53,000 ตู้ เพิ่มขึ้นเกือบ 8% จากปีก่อน โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจบริการ Air Freight ด้วย
กลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถและขยายฐานลูกค้าเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพารายได้ในระยะยาวจากกลุ่มธุรกิจบริการ Sea Freight ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักในปัจจุบัน

ณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจบริการ Sea Freight ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดได้ร่วมมือกับกับพาร์ทเนอร์ในประเทศเวียดนาม จัดตั้งบริษัทร่วมทุนและสำนักงานในเวียดนามเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะเริ่มให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลในเส้นทางเวียดนาม สหรัฐอเมริกา และจากเวียดนามไปยังภูมิภาคอื่นๆได้ในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมีปริมาณขนส่งสินค้าในปีแรกประมาณ 900 ตู้ โดยเวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตและมีศักยภาพด้านการส่งออกอย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามากนัก เนื่องจากประเมินว่าสหรัฐฯ ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยแผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาด้านทำเลที่ตั้งและความคุ้มค่าในการลงทุนคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ จากปัจจุบันที่มีบริการให้เช่าคลังสินค้า 2 แห่ง ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง มีพื้นที่รวมประมาณ 20,000 ตารางเมตร

ภาพรวมธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ แม้มีปัจจัยความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจโลที่อาจกระทบกับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากจีนและประเทศในภูมิภาคอาเซียนไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่าแม้สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ ที่เกินดุลการค้า แต่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ไม่สามารถผลิตได้เอง และต้นทุนการผลิตสินค้าบางประเภทก็ยังคงสูงกว่าการนำเข้าภายใต้อัตราภาษีใหม่ ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
นายนันท์มนัส กล่าว

นายกวิล กฤษเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 3,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,810 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจ และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในมาเลเซียเมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแก่ลูกค้า รวมถึงค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาส่วนธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ และบริการให้เช่าคลังสินค้า มีรายได้อยู่ในระดับที่ดี

ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่มีภาระดอกเบี้ย 0.56เท่า และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 311 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมด้านเงินทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปลายปี 2566 พร้อมรองรับแผนงานขยายธุรกิจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img