23.2 C
Thailand
พุธ, ธันวาคม 3, 2025
spot_img

KCG เปิดกลยุทธ์ “ซัพพลายเชนแห่งความยั่งยืน” คว้า 2 รางวัลใหญ่แห่งปี Commended Supply Chain Management Awards จาก SET Awards 2025 และ Sustainability Disclosure Acknowledge 2025 จากสถาบันไทยพัฒน์

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (KCG) ผู้นำด้านอาหารตะวันตกเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ เผยกลยุทธ์ซัพพลายเชนแห่งความยั่งยืนที่ใช้ในการผลักดันองค์กรให้นำไปสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่นำไปสู่

การคว้า2 รางวัลใหญ่แห่งปี Commended Supply Chain Management Awards ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence
จาก SET Awards 2025 และ Sustainability Disclosure Acknowledge 2025 จากสถาบันไทยพัฒน์

คุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)  กล่าวว่าปี 2025 เป็นปีที่มีความหมายมากสำหรับKCG ทั้งในแง่ของผลประกอบการที่สามารถบรรลุเป้าหมายในQ3 โดยมียอดขายรวม เดือน ที่ 5,900.9 ล้านบาท เติบโตขึ้นระดับ Double digit มีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์จาก เนย และชีส เป็นอันดับ 1 และที่สำคัญ ในแง่ของความยั่งยืนซึ่งเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ KCG ได้รับ 2 รางวัลใหญ่ที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ KCG นั่นคือ Commended Supply Chain Management Awards จาก SET Awards 2025 และ Sustainability Disclosure Acknowledge 2025 จากสถาบันไทยพัฒน์

บทพิสูจน์การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนด้วยรางวัล Commended Supply Chain Management Awards

​​KCG ตอกย้ำมาตรฐานซัพพลายเชนระดับองค์กรชั้นนำ ด้วยการรับรางวัล “Commended Supply Chain Management Award” ในกลุ่ม Sustainability Excellence จากงาน SET Awards 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 สะท้อนบทบาทผู้นำด้านการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนของ KCG ในอุตสาหกรรมอาหารไทย

การได้รับรางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจขององค์กร และเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของบริษัท โดยเฉพาะการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานผ่านความร่วมมือกับคู่ค้าทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และร่วมสร้างคุณค่า
ไปพร้อมกับคู่ค้าในการสร้างมาตรฐานดีขึ้นของพาเลทในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะ Cold Chain เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง

หนึ่งในโครงการสำคัญของ KCG คือ การพัฒนาพาเลทรีไซเคิล 100% สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุน
และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ–ขนส่งสินค้า แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นนวัตกรรมที่สะท้อนการยกระดับมาตรฐาน Green Logistics อย่างต่อเนื่อง โดยยังเดินหน้าสู่การดำเนินงานด้านโลจิสติกส์สีเขียว ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน เช่น การมุ่งใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Roof ในทุกส่วนที่เป็นคลังสินค้าของ KCG พร้อมกับมีแผนขยายเพิ่มเติมไปในส่วนที่โรงงานผลิตสินค้าภายบริษัท นโยบายการใช้รถไฟฟ้าในการจัดส่งสินค้าซึ่งมีเป้าหมายว่าจะเปลี่ยนรถขนส่งเป็นรถไฟฟ้า
ไม่ต่ำกว่า 30% ของรถขนส่งทั้งหมดของบริษัท หรือ การนำระบบการจัดการงาน Logistics ส่วนของการจัดส่ง (TMS) ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนในการจัดส่งได้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบการปล่อยการคาร์บอนของการขนส่งได้อย่างแม่นยำ
รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2050 ขององค์กร

ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน 2 ปีซ้อนกับรางวัล Sustainability Disclosure Acknowledgement

​​KCG ยังได้รับ “รางวัลกิตติกรรมประกาศ Sustainability Disclosure Acknowledge 2025จากสถาบันไทยพัฒน์
เพื่อเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจ และการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนต่อสาธารณะและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง โดยยึดหลักความยั่งยืนที่ประกอบด้วยสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environment, Social, and Governance: ESG) แสดงถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

การได้รับรางวัลกิตติกรรมประกาศ Sustainability Disclosure Acknowledgement ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นี้ สะท้อนให้เห็นถึง ความสม่ำเสมอของบริษัทในการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

​​ความสำคัญของรางวัลนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนและองค์กรธุรกิจที่เป็นสมาชิกของประชาคมการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Disclosure Community: SDC) ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงาน
ซึ่งครอบคลุมทั้งการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือประเด็นด้าน ESG นอกเหนือจากข้อมูลทางการเงิน จึงเป็นหลักฐาน
ในความตั้งใจของ KCG ที่ควบรวมเรื่องความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินการขององค์กร พร้อมเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการก้าวสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนในระยะยาว

ความสำเร็จจากการคว้ารางวัลระดับประเทศ ทั้ง Commended Supply Chain Management Award จากงาน SET Awards 2025 และ Sustainability Disclosure Acknowledgement 2025 จากสถาบันไทยพัฒน์ สะท้อนผลลัพธ์ของ “กลยุทธ์ซัพพลายเชนแห่งความยั่งยืน” ที่ KCG ยึดถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่เพียงช่วยยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพการดำเนินงาน ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ห่วงโซ่อุปทาน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค คู่ค้า
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

KCG จะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบซัพพลายเชนให้มีความเข้มแข็ง โปร่งใส และรับผิดชอบยิ่งขึ้น ตอกย้ำเป้าหมายในการเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่ “เติบโตอย่างยั่งยืน” ได้ในระยะยาว และเป็นตัวอย่างขององค์กรไทยที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การเติบโตทางธุรกิจสามารถก้าวเดินเคียงข้างความยั่งยืนได้อย่างแท้จริ

เกี่ยวกับบริษัท KCG

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG คือ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้น
ตั้งแต่ พ.ศ 2501 โดยคุณวิจัย วิภาวัฒนกุลและน้องชายคือ คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ จากเดิมใช้ชื่อว่ากิมจั๊วพาณิชย์”  ซึ่งมีแบรนด์สินค้า
ที่อยู่คู่ประเทศไทยมานาน อาทิอิมพีเรียล’  คุกกี้กล่องแดง, ‘อลาวรี่’  แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนย และชีส ยอดขายอันดับ 1 ยาวนาน
ถึง 8 ปีซ้อน, ‘ซันควิก’  น้ำผลไม้เข้มข้น จากธรรมชาติ ยอดขายในไทยกว่า 800,000 ขวด ต่อปี

ในช่วงแรกเริ่มดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ จนมาถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนธุรกิจเติบโต กลายเป็นทั้งผู้นำเข้า ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ทั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ในกลุ่มสินค้าประเภท เนยและชีส ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบอาหารและเบเกอรี รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์บิสกิตหรือขนม
สําเร็จรูปต่าง ๆ อาทิ คุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่ สําเร็จรูป มากกว่า 2,000 สินค้าภายใต้บริษัทฯ

และบริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและได้รับการอนุมัติเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมาย เป็นองค์กรที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับการรับประทานอาหาร
ที่ทุกคนทำงานด้วยใจรักในศาสตร์และศิลปะของอาหาร และความเป็นมืออาชีพ

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisment -spot_img

บทความยอดนิยม

- Advertisment -spot_img

ความคิดเห็นล่าสุด

- Advertisment -spot_img